ข่าวประชาสัมพันธ์

…ข้าพระพุทธเจ้า ข้าราชการฝ่ายอัยการและบุคลากร สำนักงานอัยการจังหวัดแม่สะเรียง…

วันพ่อแห่งชาติ
วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็น “พ่อ” ตัวอย่างของปวงชนชาวไทยที่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณาอย่างหาที่เปรียบมิได้
พระราชประวัติ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระนามเดิมว่า “ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช” ทรงเป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ทรงเสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2470 ณ โรงพยาบาลเมานท์ออเบอร์น (MOUNT AUBURN) ประเทศสหรัฐอเมริกา มีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช 2 พระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงออกพระนามเรียกพระองค์เป็นการลำลองว่า “เล็ก”
ด้านการศึกษา
เมื่อพระชนมายุได้ 5 พรรษา ทรงเข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนมาแตร์เดอี จากนั้นทรงเสด็จไปศึกษาต่อ ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนเมียร์มองต์ เมืองโลซานน์ ในปี พ.ศ. 2478 ได้ทรงเข้าศึกษาต่อที่ CEDE NOUBELLE DE LA SUES ROMANCE CHILLY ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนที่รับนักเรียนนานาชาติ ในระดับอุดมศึกษาทรงเข้าศึกษาในแผนกวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเมืองโลชานน์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2481 ได้เสด็จนิวัตกลับประเทศไทยพร้อมด้วยพระบรมเชษฐาธิราช พระบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
ด้านการครองราชย์
พระองค์ได้เสด็จกลับเถลิงถวัลยราชสมบัติต่อจากพระบรมเชษฐาเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ขณะมีพระชันษา 19 ปี ก่อนครองราชย์ได้ทรงศึกษาวิชาวิศวกรรมศาสตร์และได้เสด็จกลับไปศึกษาวิชานิติศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ต่ออีกภายหลังที่ได้ครองราชย์แล้ว
ด้านพระบรมราชาภิเษก
วันที่ 5 พฤษภาคม 2493 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามโบราณขัตติยราชประเพณี ณ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระมหาราชวัง ในการนี้ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศ สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ พระอัครมเหสีเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี ทั้งสองพระองค์มีพระราชโอรสและพระราชธิดา 4 พระองค์ ดังนี้
1. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
2. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ฯ
3. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลนโสภาคย์
4. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
ด้านพระราชกรณียกิจ
พระองค์ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์แก่ชาวไทยตลอด 70 ปี โดยพระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระองค์ คือ การเสด็จพระราชดำเนินเยือนประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดารต่าง ๆ ในประเทศ ซึ่งพระราชกรณียกิจอันโดดเด่น มีดังต่อไปนี้
1. โครงการแกล้งดิน
แกล้งดิน เป็นแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เพื่อแก้ไขปัญหาดินเปรี้ยวจะทำด้วยการขังน้ำไว้ในพื้นที่จนกระทั่งเกิดปฏิกิริยาทางเคมีจนทำให้ดินเปรี้ยวจัด เมื่อถึงที่สุดแล้วจะมีการระบายน้ำออกแล้วปรับสภาพดินด้วยปูนขาว จนกระทั่งสามารถใช้ดินในการเพาะปลูกได้
2. โครงการปลูกหญ้าแฝก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้ทรงศึกษาเรื่องการใช้หญ้าแฝกในการอนุรักษ์ดินและน้ำจากเอกสารของธนาคารโลก ที่นาย Richard Grimshaw ได้ทูลเกล้าฯ ถวายและพระองค์ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับหญ้าแฝก โดยให้ทรงทดลองปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการพังทลายของดิน จนปัจจุบันมีหน่วยงานกว่า 50 หน่วยงานดำเนินงานสนองพระราชดำริการพัฒนาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝก ส่งผลให้การดำเนินงานก้าวหน้ามากขึ้นตามลำดับ
3. โครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระราชทานโครงการแพทย์หลวงพระราชทาน เมื่อปี พ.ศ. 2510 โดยที่มีการจัดเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล เครื่องมือเครื่องใช้เพื่อตรวจรักษาราษฎรในถิ่นทุรกันดารโดยไม่คิดมูลค่า และอบรมหมอหมู่บ้านเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพของประชาชน
4. โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน
โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ได้จัดทำขึ้นตามพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 โดยจัดขึ้นเป็นรูปเล่มและบางส่วนได้เผยแพร่ออนไลน์ อันรวบรวมเนื้อหาจากหลายสาขาวิชา โดยที่ฉบับปกติมีทั้งหมด 37 เล่ม และฉบับเสริมการเรียนรู้มีทั้งหมด 20 เล่ม
5. ทุนมูลนิธิอานันทมหิดล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดตั้งมูลนิธิอานันทมหิดล ในปี พ.ศ. 2502 เพื่อให้นิสิตนักศึกษาที่มีผลการเรียนดีเด่น ได้มีโอกาสไปศึกษาหาความรู้ชั้นสูงในต่างประเทศและนำองค์ความรู้ที่ได้มาช่วยพัฒนาประเทศต่อไป
6. แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง : เกษตรทฤษฎีใหม่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานแนวพระราชดำริเรื่องเกษตรทฤษฎีใหม่ โดยเป็นตัวอย่างการใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงในขั้นต้น โดยการทำเกษตรทฤษฎีใหม่นี้แบ่งออกเป็น 3 ขั้นได้แก่ ขั้นต้น คือ การแบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน ตามอัตรา 30-30-30-10 เพื่อขุดเป็นสระกักเก็บน้ำ 30% ปลูกข้าวในฤดูฝน 30% ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผักสมุนไพร 30% และเป็นที่อยู่อาศัยอีก 10% จากนั้นจึงเป็นเกษตรทฤษฎีใหม่ขั้นที่สอง คือการให้เกษตรกรรวมกันในรูปแบบของกลุ่มสหกรณ์ เพื่อดำเนินการในด้านการผลิต การตลาด ความเป็นอยู่ สวัสดิการ การศึกษา จากนั้นจึงเป็นเกษตรทฤษฎีใหม่ขั้นที่สาม คือการติดต่อประสานงาน จัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อใช้ลงทุนพัฒนาคุณภาพชีวิตต่อไป
7. โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างโครงการอันหลากหลายในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ โครงการแบบไม่ใช่ธุรกิจ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตทางการเกษตรและโครงการกึ่งธุรกิจ อาทิ โรงโคนมสวนจิตรลดา, โรงนมผงสวนดุสิต, น้ำผึ้งสวนจิตรลดา เป็นต้น
8. โครงการฝนหลวง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริส่วนพระองค์ในเรื่องการจัดทำฝนหลวงเพื่อบรรเทาปัญหาขาดแคลนน้ำในการเกษตร โดยมีการค้นคว้าทดลองปฏิบัติการฝนหลวงขึ้น ซึ่งจะใช้สารเคมีโปรยในท้องฟ้าจนกระทั่งไอน้ำอิ่มตัวและกลั่นตัวออกมากลายเป็นเม็ดฝน
9. กังหันน้ำชัยพัฒนา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้มีพระราชดำริให้มูลนิธิชัยพัฒนาดำเนินการวิจัย และพัฒนากังหันน้ำชัยพัฒนาขึ้น เพื่อบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีการเติมอากาศ ทำให้น้ำเสียกลายเป็นน้ำดี และสามารถประยุกต์ใช้ในการอุปโภคบริโภคของประชาชน น้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม และเพิ่มออกซิเจนให้บ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทางการเกษตร




เกี่ยวกับสำนักงาน
ศาลจังหวัดแม่สะเรียงเดิมเป็นศาลแขวงได้จัดตั้งขึ้นโดย พ.ร.บ.จัดตั้งศาลแขวงสำหรับหัวเมือง พ.ศ.2478 มีเขตอำนาจตลอดท้องที่ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน สาเหตุที่จัดตั้งศาลแขวงแม่สะเรียง เพราะอำเภอแม่สะเรียงมีประชากรเกือบเท่าตัวจังหวัด แต่อยู่ห่างไกลจากที่ตั้งของจังหวัด และสภาพภูมิประเทศเป็นขุนเขาหนทางกันดาร ต้องเดินทางด้วยเท้าถึง 8 วัน เป็นที่เดือนร้อนแก่ ผู้มีอรรถคดีเป็นอันมาก ก่อนตั้งศาลแขวงแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้จัดส่งรองจ่าศาลมาประจำอยู่ที่อำเภอแม่สะเรียงทำหน้าที่ เป็นพนักงานรับฟ้อง และผู้พิพากษาจังหวัดแม่ฮ่องสอนเดินทางมา ทำการพิจารณาคดีปีละ 2 ครั้ง ทำให้การพิจารณาคดีเป็นไปโดยล่าช้า รัฐบาลจึงได้จัดตั้ง ศาลแขวงแม่สะเรียง โดยเปิดทำการเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2478 มีหลวงสารสิทธิ์ประการ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นผู้รักษาการตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลแขวงแม่สะเรียงชั่วคราว สำหรับพนักงานอัยการ กรมอัยการ ในขณะนั้นได้จัดตั้งสำนักงานอัยการประจำศาลแขวงแม่สะเรียง โดยมีนายกิมหลี ศิริวัฒนา เป็นอัยการจังหวัด คนแรก
ต่อมาหลวงสารสิทธิ์ประการได้เสนอความเห็น ในการยกฐานะศาลแขวงแม่สะเรียงเป็นศาลจังหวัดด้วยเหตุผลว่าศาลแขวงแม่สะเรียง ไม่อาจยังประโยชน์แก่ชาวแม่สะเรียงผู้มีอรรถคดีได้อย่างแท้จริง เพราะคดีเกินอำนาจก็จะต้องไปดำเนินการที่ศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งคู่ความและพยานจะต้องเสียเวลาเดินทาง ตลอดจนค่าใช้จ่ายอย่างมาก ทำให้เดือนร้อนไม่สมกับความมุ่งหมายที่จะอำนวยความสะดวก แก่ประชาชนผู้มีอรรถคดีอย่างจริงจัง หลังจากนั้นศาลแขวงแม่สะเรียง จึงได้รับการยกฐานะเป็นศาลจังหวัด ตามพ.ร.บ.ยกฐานะศาลแขวง แม่สะเรียง ศาลแขวงแม่สอด ศาลแขวงตะกั่วป่าและศาลแขวงหลังสวนเป็นศาลจังหวัด พ.ศ.2478 โดยเปิดทำการตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2480ซึ่งมีเขตอำนาจรวมตลอดไปถึงกิ่งอำเภอท่าสองยาง สำนักงานอัยการประจำศาลแขวงแม่สะเรียง จึงได้รับการยกฐานะ เป็นสำนักงานอัยการประจำศาลจังหวัดแม่สะเรียง ครั้นปี พ.ศ.2491 รัฐบาลได้ตราพ.ร.บ.โอนท้องที่กิ่งอำเภอท่าสองยางไปขึ้นกับ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นเหตุให้เขตอำนาจศาลต้องเปลี่ยนแปลง นับแต่นั้นมาสำนักงานอัยการประจำศาลแขวงแม่สะเรียง จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นสำนักงานอัยการประจำศาลจังหวัดแม่สะเรียง ต่อมามีการเปลี่ยนชื่อสำนักงานอีกครั้งเป็นสำนักงานอัยการจังหวัดแม่สะเรียง มีผู้ดำรงตำแหน่งอัยการจังหวัดมาแล้วทั้งสิ้น 57 คน ปัจจุบัน คือ นายณัฐวุฒิ คูหะสุวรรณ
1. อำนวยความยุติธรรม ได้แก่ การบริหารงานยุติธรรมในส่วนของฝ่ายบริหารของรัฐ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยและปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินโดยพนักงานอัยการจะเป็นผู้พิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวนที่พนักงานสอบสวนเสนอมาแล้ววินิจฉัยสั่งคดีตลอดทั้งดำเนินคดีอาญาทางศาล ในฐานะทนายแผ่นดินตามที่ประมวลกฏหมายอื่น ๆซึ่งบัญญัติว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการ
2. รักษาผลประโยชน์ของรัฐ ได้แก่ พิจารณาและให้คำปรึกษาในด้านกฏหมายแก่สวนราชการและหน่วยงาน ต่าง ๆ ของรัฐ ตรวจร่างสัญญาข้อหารือ ตลอดจนทั้งดำเนินคดีในศาลในฐานะทนายแผ่นดินแทนรัฐบาล หน่วยงาน ของรัฐที่เป็นนิติบุคคลตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฏีกา
3. คุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือกฏหมายแก่ประชาชน ได้แก่ การคุ้มครองสิทธิและรักษาผลประโยชน์ของประชาชน ที่กฏหมายกำหนดไว้ให้เป็นอำนาจของพนักงานอัยการ เช่น ในคดีแพ่งให้พนักงานอัยการเข้าไปคุ้มครองสิทธิของบุคคล ไร้ความสามารถ เสมือนไร้ความสามารถ คนสาบสูญ การร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก นอกจากนั้นยังดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางอรรถคดีแด่ประชาชนผู้ยากไร้ดดยจัดหาทนายอาสาให้ ตลอดทั้งการเผยแพร่ความรู้ทางกฏหมายแก่ประชาชนทั่วไป จัดการฝึกอบรมความรู้ทางกฎหมาย
สำนักงานอัยการจังหวัดแม่สะเรียง มีเขตอำนาจครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อำเภอแม่สะเรียง อำเภอ แม่ลาน้อย และอำเภอสบเมย มีสถานีตำรวจ จำนวน 7 สถานี ประกอบด้วย
- 1. สถานีตำรวจภูธรแม่สะเรียง
- 2. สถานีตำรวจภูธรท่าตาฝั่ง
- 3. สถานีตำรวจภูธรเสาหิน
- 4. สถานีตำรวจภูธรแม่ลาน้อย
- 5. สถานีตำรวจภูธรแม่ลาหลวง
- 6. สถานีตำรวจภูธรสบเมย
- 7. สถานีตำรวจภูธรกองก๋อย

วิสัยทัศน์ (Vision)
“องค์กรนำในการใช้กฎหมาย เพื่อรักษาความยุติธรรมให้กับประชาชนและสังคม”
พันธกิจ (Missions)
1. ยกระดับคุณภาพมาตรฐานงานตามภารกิจ ด้านการอํานวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและช่วยเหลือทาง กฎหมายแก่ประชาชนให้มีคุณภาพ โปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา
2. พัฒนาความร่วมมือ บูรณาการเครือข่ายองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้านการพัฒนากระบวนการยุติธรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมของประเทศ
3. เพิ่มศักยภาพมาตรฐานกลไกการบริหารจัดการระบบงานและกระบวนการทํางานที่สําคัญ รวมทั้งการพัฒนาระบบติดตามประเมินผลและระบบจัดการองค์ความรู้เพื่อมุ่งสู่การสร้างนวัตกรรมโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นพื้นฐาน
4. พัฒนาองค์กรให้มีคุณภาพคู่คุณธรรมตามหลักธรรมาภิบาล บุคลากรมีสมรรถนะสูง มีคุณธรรม จริยธรรม และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
โครงสร้าง (Structure)

วัฒนธรรมองค์กร


บุคลากร
ลำดับ | ชื่อ – สกุล | ระยะเวลา |
1 | นายกิมหลี ศิริวัฒนา | 4 ตุลาคม 2480 – 1 เมษายน 2483 |
2 | นายชัย เสือวรรณศรี | 2 พฤษภาคม 2483 – 5 กุมภาพันธ์ 2486 |
3 | นายบันลือ ราชวลัยการ | 13 กุมภาพันธ์ 2486 – 1 กันยายน 2489 |
4 | นายอำนาจ สูตะบุตร | 20 พฤศจิกายน 2489 – 8 กรกฎาคม 2494 |
5 | นายพจน์ บุณยประสพ | 9 กรกฎาคม 2494 – 11 เมษายน 2496 |
6 | นายพัฒน์ สุขะรมย์ | 12 เมษายน 2497 – 29 พฤษภาคม 2499 |
7 | นายประนต ผลาทร | 30 พฤษภาคม 2499 – 30 มีนาคม 2501 |
8 | นายสาย วุฑฒิเดช | 31 มีนาคม 2501 – 14 มิถุนายน 2503 |
9 | นายแสวง สุวรรณสุข | 15 มิถุนายน 2503 – 11 พฤษภาคม 2506 |
10 | นายประสิทธิ์ บุณยินทุ | 22 พฤษภาคม 2506 – 20 พฤษภาคม 2508 |
11 | นายชนะ อินทรานนท์ | 21 พฤษภาคม 2508 – 14 ธันวาคม 2510 |
12 | นายประสิทธิ์ นิติโรจน์ | 18 ธันวาคม 2510 – 2 ธันวาคม 2513 |
13 | นายพิสูจน์ มีกุน | 8 ธันวาคม 2513 – 7 ธันวาคม 2516 |
14 | นายบุญส่ง นพรัตน์ | 14 มกราคม 2517 – 22 พฤศจิกายน 2518 |
15 | นายเฉลิม อินทร์จัน | 29 ธันวาคม 2518 – 8 เมษายน 2520 |
16 | นายสมศักดิ์ ชาญด้วยกิจ | 9 เมษายน 2520 – 22 เมษายน 2521 |
17 | นายจรัส นาเลื่อน | 23 เมษายน 2521 – 2 เมษายน 2522 |
18 | นายเชื้อ ศุขอารีย์ | 9 เมษายน 2522 – 3 พฤษภาคม 2523 |
19 | นายสิรินทร์ เฉลิมวัฒน์ | 4 พฤษภาคม 2523 – 10 เมษายน 2524 |
20 | นายสิทธิศักดิ์ สุวรรณประกร | 15 เมษายน 2524 – 1 เมษายน 2525 |
21 | นายรัตน์ สังข์สุวรรณ | 12 เมษายน 2525 – 30 เมษายน 2526 |
22 | นายสิทธา สลักคำ | 12 พฤษภาคม 2526 – 12 เมษายน 2527 |
23 | นายมนัส สุขสวัสดิ์ | 16 เมษายน 2527 – 12 เมษายน 2528 |
24 | นายกายสิทธิ์ พิศวงปราการ | 15 เมษายน 2528 – 18 เมษายน 2529 |
25 | นายพิชัย คำแฝง | 21 เมษายน 2529 – 30พ.ย. 2529 |
26 | ร.ท.อรรถชัย อาสิงสมานันท์ | 8 ธันวาคม 2529 – 6 พฤษภาคม 2531 |
27 | นายสมบูรณ์ วิจักขณาพันธุ์ | 7 พฤษภาคม 2531 – 9 พฤษภาคม 2532 |
28 | นายกิตติ บุศยพลากร | 10 พฤษภาคม 2532 – 4 พฤษภาคม 2533 |
29 | นายปรีชา ไพทีกุล | 5 พฤษภาคม 2533 – 10 พฤษภาคม 2534 |
30 | นายปรีชา ฉิมพรัตน์ | 13 พฤษภาคม 2534 – 1 พฤษภาคม 2535 |
31 | นายกิตติ พรหมารัตน์ | 4 พฤษภาคม 2535 – 30 เมษายน 2536 |
32 | นายยงยุทธ เกียรติศักดิ์โสภณ | 3 พฤษภาคม 2536 – 30 เมษายน 2537 |
33 | นางสาวจามจุรี สิทธิวรรณรักษ์ | 2 พฤษภาคม 2537 – 1 พฤศจิกายน2537 |
34 | นายสุรพงษ์ วัฒนพานิช | 2 พฤศจิกายน 2537 – 30 กันยายน 2538 |
35 | นายสรศักดิ์ สิริวัฒนาวงศ์ | 1 ตุลาคม 2538 – 30 เมษายน 2539 |
36 | นายธีรยุทธ อมฤทธิ์ | 1 พฤษภาคม 2539 – 3 ตุลาคม 2539 |
37 | นายไพบูลย์ ประสารพันธุ์ | 4 ตุลาคม 2539 – 30 เมษายน 2541 |
38 | นายวิโรจน์ อรุณโรจน์ | 1 พฤษภาคม 2541 – 30 เมษายน 2542 |
39 | นายสุเทพ รักไตรรงค์ | 1 พฤษภาคม 2542 -30 เมษายน 2543 |
40 | ร.อ.ประทีป จันทรยุคล | 1 พฤษภาคม 2543 – 30 เมษายน 2544 |
41 | นายไพบูลย์ เธียรธัญญกิจ | 1 พฤษภาคม 2544 – 6 พฤษภาคม 2545 |
42 | นายชุมวิทย์ เกษมจิต | 7 พฤษภาคม 2545 – 27 เมษายน 2546 |
43 | นายพัฒน์พงษ์ พงษ์นิกร | 28 เมษายน 2546 – 3 เมษายน 2548 |
44 | นายพงศ์อนันต์ การุณยวนิช | 4 เมษายน 2548 – 30 เมษายน 2549 |
45 | นายสุรจิต พัฒนสาร | 1 พฤษภาคม 2549 – 6 สิงหาคม 2549 |
46 | นายโกวิท ศรีไพโรจน์ | 7 สิงหาคม 2549 – 2 เมษายน 2550 |
47 | นายชวรัตน์ วงศ์ธนะบูรณ์ | 3 เมษายน 2550 – 31 มีนาคม 2553 |
48 | นายศราวุธ นากะพันธ์ | 1 เมษายน 2553 – 31 มีนาคม 2554 |
49 | ว่าที่ร้อยตรีไพฑูรย์ ลิมปติยากร | 1 เมษายน 2554 – 31 มีนาคม 2555 |
50 | นายจรัสพงศ์ ขจัดสารพัดภัย | 1 เมษายน 2555 – 1 เมษายน 2557 |
51 | นายปัญญา กี่สุขพันธ์ | 2 เมษายน 2557 – 31 มีนาคม 2558 |
52 | นายมนตรี นามขาน | 1 เมษายน 2558 – 31 มีนาคม 2560 |
53 | ร.ต.อ.คณิต อินทกรณ์ | 1 เมษายน 2560 – 1 เมษายน 2561 |
54 | พันตรีสุเทพ ดาวรัตน์ | 2 เมษายน 2561 – 31 มีนาคม 2563 |
55 | นายสมชัย บรรจง | 1 เมษายน 2563 – 31 มีนาคม 2564 |
56 | เรือเอกวีระชาติ ทุมนัส | 1 เมษายน 2564 – 31 มีนาคม 2566 |
57 | นายณัฐวุฒิ คูหะสุวรรณ | 1 เมษายน 2566 – ปัจจุบัน |















ข้าราชการอัยการ


ข้าราชการธุรการ


จ้างเหมาบริการ

สถิติงาน
เอกสารเผยแพร่
/ ติดต่อหน่วยงาน /
สำนักงานอัยการจังหวัดแม่สะเรียง
150/1 ถ.เวียงใหม่ ต.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน 58110
โทร(โทรสาร) 053-681386 , 053-683167
E-mail : msr@ago.go.th
………………………………………………………………………………………
สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดแม่ฮ่องสอน (สาขาแม่สะเรียง)
150/1 ถ.เวียงใหม่ ต.แม่สะเรียง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน 58110
โทร(โทรสาร) 053-681386 , 053-683167
E-mail : msr-lawaid@ago.go.th
……………………………………………………………………………………….
Admin : aurupong_pi@hotmail.com