ข่าวประชาสัมพันธ์
วันศุกร์ที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๓๐ น. นายมงคล จิรชัยสกุล อธิบดีอัยการ พร้อมข้าราชการฝ่ายอัยการ สำนักงานคดีแรงงานภาค ๕ (ภูเก็ต) ร่วมต้อนรับ นายสิงห์ชัย ทนินซ้อน อัยการสูงสุด ประธานพิธีเปิดอาคารสำนักงานอัยการสูงสุด จังหวัดภูเก็ต โดยมีพระครูเมตตาภิรมย์ เจ้าคณะจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายบัณฑูร ทองตัน อธิบดีอัยการภาค ๘ กล่าวรายงาน ณ อาคารสำนักงานอัยการสูงสุดจังหวัดภูเก็ต เลขที่ ๑๕/๑ ซอยหัชนานิเวศน์ ๑ ถนนอนุภาษภูเก็ตการ ตําบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานและรองรับการบริการประชาชนที่มาติดต่อราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๖๗ นายปิยวัฒน์ พรไชยา อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีแรงงานภาค ๘ พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการในสำนักงานคดีแรงงานภาค ๘ เข้าร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันฉัตรมงคล ณ บริเวณอาคารสำนักงาน
วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๗ นายวิลาศ ใจบุญลือ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติ ถวายพระพรชัยมงคลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ณ ศาลาการเปรียญวัดขจรรังสรรค์ ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๗ นายอิธิพงศ์ กาญจนมุสิทธิ์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เข้าร่วมพิธีสวดพระปริตรและเจริญพระพุทธมนต์เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร ณ วัดสะปำธรรมาราม ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
พิธีรดน้ำขอพรอัยการผู้ใหญ่ ประจำปี ๒๕๖๗ วันศุกร์ ที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๗ ณ ห้องประชุมสำนักงานคดีปกครองภูเก็ต
ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗
ห้องประชุมมหิศรภักดี ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
เข้าร่วมโครงการ
ณ ลานอเนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
นางปรียาภัทร์ วัชรากร ผู้อำนวยการสำนักงาน และนางสาวเพ็ญนภา แซ่ตั้น นิติกร เข้าร่วมพิธี
เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์
วันจันทร์ ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567
วันเสาร์ ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๖
ณลานเอนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
เกี่ยวกับสำนักงาน
ประวัติความเป็นมา
สำนักงานคดีแรงงานเขต 8 (ภูเก็ต) อดีตตั้งอยู่เลขที่ 2 ถนนปะเหลียน ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เดิมเป็นบ้านพักของยกกระบัตรมณฑล หรืออัยการมณฑล ซึ่งสร้างในลักษณะโคโลเนียลสไตส์เป็นตึกก่ออิฐถือปูนมั่นคงแข็งแรง และสวยเด่นเป็นสง่า เมื่อประมาณปี 2459 ซึ่งสร้างในสมัยเดียวกันกับจวนเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต(บ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต) ต่อมามีการตราพระราชบัญญัติพนักงานอัยการ พุทธศักราช 2478 ประกาศใช้ อาคารดังกล่าวจึงใช้เป็นบ้านพักอัยการจังหวัดภูเก็ตเรื่อยมา และได้มีการดูแลรักษาต่อมาเป็นทอดๆ แต่ได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลาจึงถูกทิ้งร้างไปประมาณ 5 ปี
ในราวปลายปี พ.ศ.2528 นายสหาย ทรัพย์สุนทรกุล ในฐานะเป็นกรรมการจัดหาที่ดินสำหรับขยายอาคารของกรมอัยการฯ จึงเสนอต่อที่ประชุมถึงเหตุผลที่สมควรจะปรับปรุงซ่อมแซมอาคารบ้านพักอัยการจังหวัดภูเก็ต เป็นที่ทำการอัยการจังหวัดภูเก็ต ต่อคณะกรรมการชุดดังกล่าว ที่ประชุมฯ เห็นพ้องด้วยและได้เสนออธิบดีกรมอัยการแต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านพักอัยการจังหวัดภูเก็ตให้เป็นอาคารที่ทำการอัยการจังหวัดภูเก็ตขึ้นชุดหนึ่ง โดยมีนายสมหมาย ทรัพย์สุนทรกุล เป็นกรรมการและเลขานุการ คุณสมบูรณ์ จันทพันธ์ อัยการจังหวัดภูเก็ตและคณะเป็นกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ ตามคำสั่งกรมอัยการที่ 116/2529 ลงวันที่ 28 พฤษภาคม 2529 คณะกรรมการปรับปรุงซ่อมแซมฯ ได้เดินทางไปตรวจสอบสภาพความมั่นคงของตัวอาคาร เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2529 โดยร่วมกับนายไพรัช จันทรา นายช่างโยธาจังหวัด และนายวิเชียร ธนิตติราภรณ์ โยธาธิการจังหวัดภูเก็ต ปรากฏว่าอาคารบ้านพักดังกล่าว ยังอยู่ในสภาพฐานรากมั่นคงแข็งแรง จึงขอให้นายไพรัช จันทรา ช่วยเขียนแบบแปลนผังอาคารบ้านพักพร้อมกับรายละเอียดที่จะต้องปรับปรุง ซ่อมแซม แล้วคณะกรรมการฯ ได้นำแบบแปลนดังกล่าวเสนอขออนุมัติกรมอัยการจัดสรรงบประมาณ จำนวน 500,000 บาท เพื่อปรับปรุงอาคารบ้านพักดังกล่าวให้เป็นอาคารที่ทำการอัยการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับความกรุณาจากกรมด้วยดี
ในระหว่างปรับปรุงซ่อมแซมอาคารบ้านพักอัยการจังหวัดภูเก็ต นายสหาย ทรัพย์สุนทรกุล และนายบุญนิจ ไชยสิทธิ์ รองประธานคณะกรรมการปรับปรุง ซ่อมแซม ได้เดินทางไปตรวจสอบ ดูแลการก่อสร้างซ่อมแซมหลายครั้ง ซึ่งปรากฏว่าอาคารดังกล่าวอยู่ในสภาพที่ชำรุดทรุดโทรมพอสมควร จึงมีรายงานนอกเหนือจากแบบแปลนที่จะต้องซ่อมแซม ปรับปรุงเป็นจำนวนมาก รวมทั้งงบประมาณตกแต่งภายในเป็นต้นว่า เฟอร์นิเจอร์และผ้าม่าน ตลอดจนบริเวณของอาคารด้านข้างและด้านหลังเป็นที่ลุ่มจะต้องถมดินหรือทรายเพื่อปรับแต่งให้เสมอกับด้านหน้าถนนทางเข้าอาคารบ้านพักก็ต้องลาดยางแอสฟัลต์ติดคอนกรีต ต้องสร้างธงและป้ายชื่อที่ทำการอัยการจังหวัดภูเก็ตพร้อมฐานป้าย รวมตลอดถึงการปลูกต้นไม้บริเวณที่ทำการฯ ซึ่งในรายการดังกล่าวไม่มีงบประมาณอยู่เลย แต่ก็ได้ดำเนินการจนทุกสิ่งทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ทุกประการ ทั้งนี้เพราะได้รับความร่วมมือ ร่วมใจด้วยดีจากญาติสนิทมิตรสหายและผู้ที่เคารพนับถือทั้งที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร จังหวัดภูเก็ต และจังหวัดพังงา สนับสนุนด้านงบประมาณและวัสดุสิ่งของจนการก่อสร้าง ปรับปรุง ซ่อมแซมสำเร็จเรียบร้อยด้วยดี จนกระทั่งปี พ.ศ.2541 ได้ทำการก่อสร้างสำนักงานอัยการภูเก็ตแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่ 38/13 ถ.รัตนโกสินทร์ 200 ปี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จากนั้น สำนักงานอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งตั้งสำนักงานคดีแรงงานเขต 8 (ภูเก็ต) เมื่อปี พ.ศ.2546 และสถานที่ตั้งทำงานให้ตั้ง ณ จังหวัดภูเก็ต ทั้งได้มีคำสั่งให้ปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารที่ทำการ สำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ตเดิมเป็นสำนักงานคดีแรงงานเขต 8 การดำเนินงานปรับปรุงซ่อมแซมเพื่อใช้เป็นอาคารที่ทำการสำนักงานคดีแรงงานเขต 8 เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2546 เสร็จสิ้นเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2547 ใช้ระยะเวลาในการปรับปรุงซ่อมแซมประมาณ 159 วัน งบประมาณในการดำเนินการได้รับงบประมาณจากสำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน 1,307,229.55 บาท สำนักงานคดีแรงงานเขต 8 ได้เริ่มดำเนินงาน ณ อาคารแห่งนี้เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2547 เป็นต้นมา
อำนาจหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด
อำนาจหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด มีดังนี้
(มาตรา ๒๓) สำนักงานอัยการสูงสุด นอกจากมีอำนาจและหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการและงานวิชากร เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานอัยการแล้ว ให้มีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) ให้ความช่วยเหลือประชาชนในการดำเนินการทางกฎหมายรวมตลอดทั้งในการคุ้มครองป้องกันสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน
(๒) ให้คำปรึกษา และตรวจร่างสัญญาหรือเอกสารทางกฎหมายให้แก่รัฐบาล และหน่วยงานของรัฐ
(๓) ให้คำปรึกษา และตรวจร่างสัญญาหรือเอกสารทางกฎหมายให้แก่นิติบุคคล ซึ่งมิใช่หน่วยงานของรัฐแต่ได้มีพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งขึ้น ทั้งนี้ ตามที่เห็นสมควร
(๔) ดำเนินการเกี่ยวกับการบังคับคดีแพ่ง หรือคดีปกครองแทนรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐ ซึ่งพนักงานอัยการได้รับดำเนินคดีให้
(๕) ดำเนินการตามที่คณะรัฐมนตรีร้องขอ เว้นแต่การดำเนินการนั้นจะขัดต่องานในหน้าที่ หรืออาจทำให้ขัดต่อความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการ
(๖) ดำเนินการเกี่ยวกับการฝึกอบรมเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาข้ารการฝ่ายอัยการ
(๗) ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐในการอำนวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน
(๘) ติดต่อและประสานงานกับองค์กรหรือหน่วยงานต่างประเทศเกี่ยวกับเรื่องที่อยู่ในอำนาจและหน้าที่ของพนักงานอัยการหรือสำนักงานอัยการสูงสุด
(๙) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของพนักงานอัยการ หรือสำนักงานอัยการสูงสุด
ในการตรวจร่างสัญญาตาม (๒) และ (๓) ให้สำนักงานอัยการสูงสุดมีหน้าที่รักษาประโยชน์ของรัฐ ในการนี้สำนักงานอัยการสูงสุดมีหน้าที่รายงานรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐตาม (๒) หรือนิติบุคคลตาม (๓) ที่เป็นคู่สัญญาให้ทราบถึงข้อที่ควรปรับปรุงหรือแก้ไขให้สมบูรณ์ ข้อเสียเปรียบหรือข้อที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ
อำนาจหน้าที่ของอัยการสูงสุด มีดังนี้
(มาตรา ๒๗) ให้อัยการสูงสุดมีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) กำหนดนโยบายและรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด ให้เกิดผลสัมฤทธิ์และเป็นไปตามเป้าหมาย แนวทาง และแผนการปฏิบัติราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด
(๒) ควบคุมและรับผิดชอบในการบริหารราชการ ปฏิบัติราชการ และบริหารงานบุคคลของสำนักงานอัยการสูงสุด ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ แบบแผน และประเพณีปฏิบัติของราชการ
(๓) บริหารจัดการงบประมาณ การเงิน ทรัพย์สิน และการพัสุดของสำนักงานอัยการสูงสุด
ในการปฏิบัติราชการตามวรรคหนึ่ง อัยการสูงสุดอาจมอบอำนาจให้รองอัยการสูงสุด หรือข้าราชการฝ่ายอัยการผู้หนึ่งผู้ใดปฏิบัติหน้าที่แทนได้
ให้อัยการสูงสุดโอยความเห็นชอบของ ก.อ. มีอำนาจออกระเบียบเกี่ยวกับการบริหารจัดการงบประมาณ การเงิน ทรัพย์สิน และการพัสดุของสำนักงานอัยการสูงสุด
อำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการ มีดังนี้
มาตรา ๑๔ พนักงานอัยการมีอำจานและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) อำนาจและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ
(๒) ในคดีอาญา มีอำนาจและหน้าที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและ ตามกฎหมายอื่นซึ่งบัญญัติว่าเป็นอำนาจและหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุดหรือพนักงานอัยการ
(๓) ในคดีแพ่ง หรือคดีปกครอง มีอำนาจและหน้าที่ดำเนินคดีแทนรัฐบาล หน่วยงานของรัฐที่เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ราชการส่วนกลาง หรือราชการส่วนภูมิภาคในศาล หรือในกระบวนการทางอนุญาโตตุลากรทั้งปวง กับมีอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมายอื่นซึ่งบัญญัติว่าเป็นอำนาจและหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุดหรือพนักงานอัยการ
(๔) ในคดีแพ่ง คดีปกครอง หรือคดีอาญา ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐถูกฟ้องในเรื่องการที่ได้กระทำไปตามหน้าที่ก็ดี หรือในคดีแพ่งหรือคดีอาญาที่ราษฎรผู้หนี่งผู้ใดถูกฟ้องในเรื่องการที่ได้กระทำตามคำสั่งของเจ้าที่ของรัฐซึ่งได้สั่งการโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเข้าร่วมหรือช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งกระทำการในหน้าที่ราชการก็ดี เมื่อเห็นสมควรพนักงานอัยการจะรับแก้ต่างให้ก็ได้
(๕) ในคดีแพ่ง คดีปกครอง หรือกรณีมีข้อพิพาทที่ต้องดำเนินการทางอนุญาโตตุลาการ ที่หน่วยงานของรัฐซึ่งมิได้กล่าวใน (๓) หรือนิติบุคคลซึ่งมิใช่หน่วยงานของรัฐ แต่ได้มีพระราชบัญญัติด้วยกันเอง เมื่อเห็นสมควรพนักงานอัยการจะรับว่าต่างหรือแก้ต่างให้ก็ได้
(๖) ในคดีที่ราษฎรฟ้องเองไม่ได้โดยกฎหมายห้าม เมื่อเห็นสมควรพนักงานอัยการมีอำนาจเป็นโจทก์ได้
(๗) ดำเนินการตามที่เห็นสมควรเกี่ยวกับการบังคับคดีอาญาเฉพาะในส่วนของการยึดทรัพย์สินใช้ค่าปรับตามคำพิพากษาก ในการนี้มิให้เรียกค่าฤชาธรรมเนียมจากพนักงานอัยการ
(๘) ในกรณีที่มีการผิดสัญญาประกันจำเลย หรือประกันรับสิ่งของไปดูแลรักษา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มีอำนาจและหน้าที่ดำเนินคดีในการบังคับให้เป็นไปตามสัญญานั้น ในการนี้มิให้เรียกค่าฤชาธรรมเนียมจากพนักงานอัยการ
(๙) อำนาจและหน้าที่ตาม ก.อ. ประกาศกำหนดหรือเห็นชอบเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือมติคณะรัฐมนตรี
(๑๐) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของพนักงานอัยการ
(๑๑) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด ตามที่ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด
ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการตามมาตรา ๑๔ (๓) (๔) และ (๕) พนักงานอัยการจะออกคำสั่งเรียกบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำก็ได้ แต่จะเรียกคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมาให้ถ้อยคำ โดยคู่ความฝ่ายนั้นไม่ยินยอมไม่ได้
พนักงานอัยการตำแหน่งใดมีอำนาจดำเนินการตามวรรคหนึ่งได้เพียงใดให้เป็นไปตามระเบียบที่สำนักงานอัยการสูงสุด กำหนดโดยความเห็นชอบของ ก.อ.
:: กฎหมายองค์กรอัยการตามรัฐธรรมนูญปี พ.ศ. 2550
วิสัยทัศน์ (Vision)
“องค์กรนำในการใช้กฎหมาย เพื่อรักษาความยุติธรรมให้กับประชาชนและสังคม”
พันธกิจ (Missions)
1. ยกระดับคุณภาพมาตรฐานงานตามภารกิจ ด้านการอํานวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและช่วยเหลือทาง กฎหมายแก่ประชาชนให้มีคุณภาพ โปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา
2. พัฒนาความร่วมมือ บูรณาการเครือข่ายองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้านการพัฒนากระบวนการยุติธรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมของประเทศ
3. เพิ่มศักยภาพมาตรฐานกลไกการบริหารจัดการระบบงานและกระบวนการทํางานที่สําคัญ รวมทั้งการพัฒนาระบบติดตามประเมินผลและระบบจัดการองค์ความรู้เพื่อมุ่งสู่การสร้างนวัตกรรมโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นพื้นฐาน
4. พัฒนาองค์กรให้มีคุณภาพคู่คุณธรรมตามหลักธรรมาภิบาล บุคลากรมีสมรรถนะสูง มีคุณธรรม จริยธรรม และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
โครงสร้าง (Structure)
วัฒนธรรมองค์กร
บุคลากร
สำนักงานคดีแรงงานภาค 8 (ภูเก็ต)
นายปิยวัฒน์ พรไชยา
อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีแรงงานภาค ๘
นายพงศ์สันต์ ลิมปิยะกุล
รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีแรงงานภาค 8
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีแรงงานภาค 8
ร้อยตำรวจเอก บุญทบ ล้านทอง
อัยการพิเศษฝ่าย
นายวิวัฒน์ กิจจารึก
อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ
นายอิธิพงศ์ กาญจนมุสิทธิ์
อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีแพ่งภาค 8
นายพิเชษฐ์ เชาว์กิจค้า
อัยการพิเศษฝ่าย
นายบัณฑูร ทองตัน
อัยการอาวุโส
นายวิลาศ ใจบุญลือ
อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ
ข้าราชการธุรการ
นางปรียาภัทร์ วัชรากร
นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการพิเศษ
นางสาววิไล หนูพุ่ม
นิติกรชำนาญการ
นางสาวเพ็ญนภา แซ่ตั้น
นิติกรปฏิบัติการ
นางสาวฮามีดา สะหมาด
เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน
นางสาวศุทธิพร สุวรรณมาลี
เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน
จ้างเหมาบริการ
นายมงคล สีนระสิทธิ์
พนักงานขับรถยนต์
นายธนวัฒน์ สิ่งประสงค์
ช่างประจำอาคาร
นางศศิวิมล สร้างเมือง
พนักงานทำความสะอาด
คนสวน
คนสวน
คนสวน
คนสวน
ทำเนียบผู้บริหาร
ชื่อ – นามสกุล | ดำรงตำแหน่ง |
---|---|
๑. นายไพสิทธิ์ กนกเวชยันต์ | ๑ ก.ค.๒๕๔๖- ๑ ต.ค.๒๕๔๖ |
๒. นายนพดล วิลาวรรณ | ๒ ต.ค.๒๕๔๖ – ๓๑ พ.ค.๒๕๔๗ |
๓. นายขจรศักดิ์ สมานชาติ | ๓ มิ.ย.๒๕๔๗ – ๑ ธ.ค.๒๕๔๗ |
๔. หม่อมหลวงอัมพร ชยางกูร | ๒ ธ.ค.๒๕๔๗ – ๑ พ.ย.๒๕๔๘ |
๕. นายสักกฉัฐ ขวัญอยู่ | ๒ พ.ย.๒๕๔๘ – ๑๕ ต.ค.๒๕๔๙ |
๖. นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล | ๑๖ ต.ค.๒๕๔๙ – ๓๑ ต.ค.๒๕๕๐ |
๗. นายปราโมทย์ นพศิริ | ๑ พ.ย.๒๕๕๐ – ๓๐ ก.ย.๒๕๕๒ |
๘. นายพงษ์ศักดิ์ แก้วกมล | ๑ ต.ค.๒๕๕๒ – ๓๐ ก.ย.๒๕๕๔ |
๙. นายสุรศักดิ์ รักญาติ | ๑ ต.ค.๒๕๕๔ – ๓๐ ก.ย.๒๕๕๘ |
๑๐. นายวิเชฏฐ์ มุสิกรังษี | ๑ ต.ค.๒๕๕๘ – ๓๐ ก.ย.๒๕๖๑ |
๑๑. นายพยูง เณรพลาย | ๑ ต.ค.๒๕๖๑ – ๓๐ ก.ย.๒๕๖๒ |
๑๒. นายนรศักดิ์ นรภักดิ์สุนทร | ๑ ต.ค.๒๕๖๒ – ๓๐ ก.ย.๒๕๖๓ |
๑๓. นายบัณฑูร ทองตัน | ๑ ต.ค.๒๕๖๓ – ๓๐ ก.ย.๒๕๖๔ |
๑๔. นายมงคล จิรชัยสกุล | ๑ ต.ค.๒๕๖๔ – ๓๐ ก.ย.๒๕๖๕ |
๑๕. นายปิยวัฒน์ พรไชยา | ๑ ต.ค.๒๕๖๕ – ปัจจุบัน |
สถิติคดี
ปี พ.ศ. | แพ่ง | แรงงาน |
---|---|---|
2566 | 309 | 59 |
2565 | 335 | 81 |
2564 | 455 | 89 |
2563 | 423 | 42 |
2562 | 386 | 44 |
2561 | 390 | 44 |
2560 | 372 | 63 |
2559 | 350 | 124 |
2558 | 287 | 41 |
2557 | 253 | 8 |
2556 | 260 | 17 |
2555 | 244 | 16 |
เอกสารเผยแพร่
ติดต่อหน่วยงาน
สำนักงานคดีแรงงานภาค 8 (ภูเก็ต)
เลขที่ 15/1 ซอยหัชนานิเวศน์ 1 ถนนอนุภาษภูเก็ตการ ตำบลตลาดใหญ่
อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000
โทร/โทรสาร 0 7622 3947
E-Mail : Phuket-labor@ago.go.th