ประวัติความเป็นมา

            เนื่องจากสภาพปัญหามากมายหลายสาเหตุด้วยกัน ที่มีส่วนทำให้เกิดความเดือนร้อนแก่ประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่มีฐานะยากจน หรือที่อยู่ในชนบทห่างไกล อาทิเช่น การถูกเอารัดเอาเปรียบในด้านเศรษฐกิจ ปัญหาการแย่งที่ดินทำกิน การกระทบกระทั่งกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐกับราษฎรในการใช้อำนาจรัฐอันไม่เป็นธรรม ฯลฯ สาเหตุต่าง ๆเหล่านี้ เป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาชนที่ถูกกระทำ ต้องสูญเสียสิทธิเสรีภาพและทรัพย์สินไป ซึ่งผลที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือการแก้แค้น ประทุษร้ายต่อร่างกาย และชีวิตซึ่งกันและกัน การก่ออาชญากรรม ที่ทำให้สังคมอยู่กันอย่างหวาดผวา ไม่มีความผาสุก และเมื่อเกิดขึ้นมาก ๆ ก็จะมีผลกระทบ ต่อความมั่นคงของประเทศได้ ซึ่งภาวการณ์ดังกล่าว จากการศึกษาวิจัยก็ได้พบว่า มูลเหตุสำคัญประการหนึ่งก็คือ ความไม่รู้กฎหมาย ที่ทำให้คนส่วนหนึ่งมีการกระทำที่ละเมิด ต่อกฎเกณฑ์ที่กฎหมายได้กำหนดไว้ ในขณะที่คนอีกส่วนหนึ่งก็ไม่มีความรู้ ที่จะใช้กฎหมาย ในการปกป้องและพิทักษ์สิทธิหรือผลประโยชน์ของตน เมื่อเกิดกรณีพิพาทขึ้น ก็ทำให้รัฐต้องทุ่มเทงบประมาณจำนวนไม่น้อย ในแต่ละปีเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้สำเร็ว
            อย่างไรก็ตาม การใช้มาตรการแก้ไขปัญหาสังคม โดยวิธีการปราบปรามแต่เพียงอย่างเดียว ไม่ใช่วิถีทางที่ได้ผลอย่างแท้จริง วิธีการที่ดีที่ควรทำควบคู่กันไปก็คือ การส่งเสริมประชาชนให้มีความรู ้ ในสิทธิและหน้าที่ของตนตามกฎหมาย จะทำให้เกิดความสัมฤทธิ์ผล ในการลดปัญหาพิพาทขัดแย้งได้ในปริมาณที่มากกว่า ดังนั้น จากแนวความคิดดังกล่าว ได้นำมาสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง ในยุครัฐบาลของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งได้มีการจัดตั้งโครงการให้ความช่วยเหลือ ทางกฎหมายแก่ประชาชน ชนบทในเขตยากจนขึ้น อันเป็นโครงการหนึ่ง ในแผนงานบริการขั้นพื้นฐาน ของแผนพัฒนาชนบทยากจน แล้วบรรจุโครงการนี้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2525-2529) โดยในชั้นแรกได้มอบหมาย ให้สำนักนโยบายและแผนมหาดไทย กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ปฏิบัติ
             สำนักนโยบายและแผนมหาดไทย ได้ดำเนินงานไปได้ระยะหนึ่ง ก็มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2526 เห็นชอบ ตามความเห็นของคณะกรรมการปฏิรูป ระบบราชการ และระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน ให้โอนโครงการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ชนบทในเขตยากจน ให้สำนักงานอัยการสูงสุด (กรมอัยการในขณะนั้น) เป็นผู้ดำเนินการสืบต่อมา ก่อนหน้าที่จะได้รับโอนงานมานั้น กรมอัยการได้มีการดำเนินงานด้านการคุ้มครอง สิทธิเสรีภาพ และ ผลประโยชน์ของประชาชนตามที่กฎหมาย กำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ ของพนักงานอัยการอยู่แล้วโดย กรมอัยการได้มีคำสั่งที่ 174/2525 ลงวันที่ 15 กันยายน 2525 จัดตั้งสำนักงานคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและผลประโยชน์ของประชาชน (สคช.) ขึ้น โดยจัดตั้งเป็นหน่วยงานภายใน ซึ่งเมื่อสำนักนโยบายและแผนมหาดไทย ได้ส่งมอบงานตามโครงการให้ความช่วยเหลือ ทางกฎหมายแก่ ประชาชนให้กรมอัยการทั้งหมด ในวันที่ 1 มิถุนายน 2527 กรมอัยการก็ได้มอบหมายงานตามโครงการฯ ให้สำนักงานคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและผลประโยชน์ของประชาชนดำเนินงานมาตั้งแต่บัดนั้น เป็นต้นมา
             สำนักงานคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และผลประโยชน์ของประชาชน ดำเนินงานให้ความช่วยเหลือ ทางกฎหมายแก่ประชาชนชนบทในเขตยากจน ปรากฏว่าเกิดผลดีมาเป็นลำดับ ดังนั้นเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2527 คณะรัฐมนตรี ได้มีมติให้โอนงานช่วยเหลือทางกฎหมายแก่เกษตรกรและ ผู้ยากจน ที่สำนักงานปลัดสำนัก นายกรัฐมนตรีดำเนินการอยู่ มาให้สำนักงานคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและผลประโยชน์ของประชาชนดำเนินงาน ต่อไปด้วย ดังนั้น ตั้งแต่ปี พ.ศ . 2527 เป็นต้นมา สำนักงานคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และผลประโยชน์ของประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด (กรมอัยการในขณะนั้น) จึงเป็นหน่วยงานเดียวของรัฐ ที่ปฏิบัติงานทางด้านคุ้มครองสิทธิ และ ช่วยเหลือทางกฎหมาย แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่องมาตราบจนปัจจุบัน   ต่อมาในปี พ.ศ. 2531 ได้มีพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมอัยการ กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2531 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 105 ตอนที่ 122 ลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2531 แบ่งส่วนราชการในกรมอัยการเพิ่มขึ้น คือ กองคดีเด็กและเยาวชน กองคดีภาษีอากร กองคดีศาลแขวง กองคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร และ สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ซึ่งตามพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ได้กำหนดให้สำนักงานคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นส่วนราชการระดับกอง ตามกฎหมายของกรมอัยการ และเปลี่ยนชื่อเป็น “สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน” ตามคำสั่งกรมอัยการที่ 199/2531 ลงวันที่ 27 ตุลาคม 2531
            สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และผลประโยชน์ของประชาชน ตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการ หรือเมื่อมีกรณีอันสมควร เข้าคุ้มครองป้องกันสิทธิเสรีภาพและผลประโยชน์ ของประชาชนในประการอื่น ที่กฎหมายให้มีอำนาจดำเนินการได้ ตลอดจนดำเนินงาน  ให้บริการช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย แก่ประชาชนผู้ยากไร้ และประชาชนในชนบท รวมทั้งดำเนินการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย ให้แก่ประชาชนทั่วไป ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค แบ่งออกเป็น 3 กอง คือ”
1) กองคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน
2) กองช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน
3) กองแผนและติดตามประเมินผล
            ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2531 เป็นต้นไป
ปัจจุบันนี้ ตามกฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการสำนักงานอัยการสูงสุด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 ลงวันที่ 29 กันยายน 2549
ข้อ 15 (24) กำหนดให้สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือ ทางกฎหมายแก่ประชาชน มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และผลประโยชน์ของประชาชน การให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย การเผยแพร่ความรู้ทางด้านสิทธิมนุษยชน และความรู้ทางกฎหมาย แก่ประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ การดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคด้านอรรถคดี การให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย และการเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคแก่ประชาชน ศึกษาวิจัย และพัฒนาระบบ รูปแบบ วิธีการ และแนวทางปฏิบัติในการดำเนินการดังกล่าว

ผลการปฏิบัติงาน
            สคช. ได้รับการคัดเลือกและยกย่องให้เป็นหน่วยงานดีเด่นระดับชาติ สาขาพัฒนาสังคม พ.ศ. 2529 จากคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ในส่วนที่เกี่ยวกับประชาชนทั้งในกรุงเทพฯและในต่างจังหวัด ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2535 อนุมัติให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีกติกา ระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (พ.ศ. 2509) และจากเหตุผลดังกล่าวได้มี การจัดตั้งคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนระดับชาติขึ้น โดนมีนายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่ นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน        ซึ่งคณะกรรมการฯ ได้กำหนดให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นแกน กลางในการจัดตั้งองค์กรทางด้านสิทธิมนุษยชน

โครงสร้างของ สคช.
            สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน มีหน่วยงานที่ทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิและให้ความช่วยเหลือ ทางกฎหมายแก่ประชาชนสังกัดอยู่ ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ดังนี้

ส่วนกลาง ประกอบด้วย
สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (ส่วนกลาง)
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายแผนช่วยเหลือทางกฎหมาย
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิ
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิประชาชนระหว่างประเทศ
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายช่วยเหลือทางกฎหมาย 1 (รัชดาภิเษก)
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายช่วยเหลือทางกฎหมาย 2 (หลักเมือง)
สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายช่วยเหลือทางกฎหมาย 3 (ธนบุรี)
สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย 4 (มีนบุรี)

ส่วนภูมิภาค
            เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ได้รับการบริการทางกฎหมาย จากพนักงานอัยการโดยเสมอภาค และทั่วถึงกัน สำนักงานอัยการสูงสุดจึงมีคำสั่ง ให้จัดตั้งสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคดี จังหวัด (สคชจ.) ขึ้น โดยมีหน้าที่สำคัญคือ เผยแพร่และฝึกอบรมความรู้ทางกฎหมาย และให้คำปรึกษาปัญหากฎหมายแก่ประชาชน จัดหาทนายความช่วยเหลือในทางอรรถคดี แก่ประชาชนผู้ยากจนและไม่ได้รับความเป็นธรรม ตลอดจนงานการประนอมข้อพิพาท งานคุ้มครองสิทธิทางศาลตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของพนักงานอัยการ เช่น การร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก ฯลฯ

สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ในส่วนภูมิภาคประกอบด้วย

–  สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย ภาค 1- 9 จำนวน 9 แห่ง
–  สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัด (สคชจ.) ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานอัยการจังหวัด จำนวน 76 แห่ง
–  สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัด ประจำจังหวัดสาขา (สคชจ. สาขา) ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานอัยการจังหวัดประจำอำเภอ จำนวน 34 แห่ง

อำนาจหน้าที่

1. การคุ้มครองสิทธิทางศาลตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการ เช่น การยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก การยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งเป็นคนสาบสูญ การตั้งผู้ปกครอง การร้องขอให้ศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถ/คนเสมือนไร้ความสามารถ การยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งอนุญาตแทนการให้ความยินยอมของบิดา/มารดาผู้เยาว์ในการรับบุตรบุญธรรม
2.  การให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ได้แก่
(1)การให้คำปรึกษาปัญหาทางกฎหมาย ช่วยเหลือประนอมข้อพิพาท
(2)การช่วยเหลือทางอรรถคดีแก่ผู้ยากจนและไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยการจัดทนายความอาสา ดำเนินการในชั้นศาล
(3)สนับสนุนการประนอมข้อพิพาทระดับท้องถิ่น โดยฝึกอบรมผู้นำชุมชน/ผู้นำท้องถิ่น ในการประนอมข้อพิพาท
(4)เผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายต่าง ๆ แก่ประชาชน เช่น ออกหน่วยเคลื่อนที่ไปตามหมู่บ้านต่างๆ ร่วมกับจังหวัดเคลื่อนที่ร่วมกับหน่วยงานอื่นในการออกเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมาย
(5)ฝึกอบรมความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชนกลุ่มต่าง ๆ เช่น นักเรียน นักศึกษา
(6)การคุ้มครองผู้บริโภคด้านอรรถคดี โดยให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย เผยแพร่ความรู้ทาง กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคแก่ประชาชน
3. การบังคับคดี โดยรับผิดชอบการดำเนินคดีเกี่ยวกับการบังคับคดีแพ่ง คดีปกครอง และคดีอาญาเฉพาะในส่วนของการยึดทรัพย์สินใช้ค่าปรับตามคำพิพากษาตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการหรือสำนักงานอัยการสูงสุดภายในเขตท้องที่จังหวัดพังงา (อำเภอเมือง,อำเภอตะกั่วทุ่ง,อำเภอทับปุด,อำเภอท้ายเหมือง,อำเภอเกาะยาว)

วิสัยทัศน์ (Vision)

“องค์กรนำในการใช้กฎหมาย เพื่อรักษาความยุติธรรมให้กับประชาชนและสังคม”

พันธกิจ (Missions)

1. ยกระดับคุณภาพมาตรฐานงานตามภารกิจ ด้านการอํานวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและช่วยเหลือทาง กฎหมายแก่ประชาชนให้มีคุณภาพ โปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา
2. พัฒนาความร่วมมือ บูรณาการเครือข่ายองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้านการพัฒนากระบวนการยุติธรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมของประเทศ
3. เพิ่มศักยภาพมาตรฐานกลไกการบริหารจัดการระบบงานและกระบวนการทํางานที่สําคัญ รวมทั้งการพัฒนาระบบติดตามประเมินผลและระบบจัดการองค์ความรู้เพื่อมุ่งสู่การสร้างนวัตกรรมโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นพื้นฐาน
4. พัฒนาองค์กรให้มีคุณภาพคู่คุณธรรมตามหลักธรรมาภิบาล บุคลากรมีสมรรถนะสูง มีคุณธรรม จริยธรรม และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

บุคลากร


นางสาวปาริชาติ วิเชียรบุตร
อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย
และการบังคับคดีจังหวัดพังงา

นายเพลินพจน์ กิมเสาว์
อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด

นายชัยยุทธ ทองอินทร์
รองอัยการจังหวัด

นายนพดล ทองภิรมย์ 
นิติกรปฏิบัติการ

รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ สำนักอำนวยการ
นายอดิศร คงทอง
นิติกรปฏิบัติการ
นางสาวชลธิชา จริภักดิ์ 
เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน

นายชาลี เสือยืนยง

นางสาวภัสราภรณ์ หลักเพชร
นายวรเดช โพธิวรรณ์

กิจกรรม


วันที่ 6 กันยายน 2566 เวลา 14.10 – 15.00 น. พบกับรายการ “กฎหมายใกล้ตัว” ทางระบบ F.M 100 MHz และ facebook “สวท พังงาเรดีโอ” โดยสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา.


ในวันที่ 11 กรกฏาคม 2566 นางสาวปาริชาติ วิเชียรบุตร อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับจังหวัดพังงา นายเพลินพจน์ กิมเสาว์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และคณะเจ้าหน้าที่ จัดโครงการฝึกอบรมความรู้แก่เด็กและเยาวชน ณ โรงเรียนดีบุกพังงาวิทยายน อำเภอเมือง จังหวัดพังงา


ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 นายเพลินพจน์ กิมเสาว์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และนายวรวุฒิ จัมมวานิชกุล อัยการจังหวัดผู้ช่วย เป็นวิทยากรในหัวข้อ “กฎหมายใกล้ตัว” แก่บุคลากรกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี(ระดับจังหวัด) ณ โรงแรมเอราวัณ ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา


สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา เปิดให้บริการทุกวันเสาร์เวลา 08.30 – 16.30 น. เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ไม่สามารถมาใช้บริการในวันเวลาราชการได้


ในวันที่ 6 เมษายน 2566 นางสาวปาริชาติ วิเชียรบุตร อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา ร่วมพิธีวางพานพุ่มมถวายสักการะพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ ณ หอประชุมจำปูน ศาลากลางจังหวัดพังงา


เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 นางสาวปาริชาติ วิเชียรบุตร เข้ารับตำแหน่งอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา (และสาขาตะกั่วป่า)และนายวรวุฒิ จัมมวานิชกุล รองอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา


ในวันที่ 16 มีนาคม 2566 นายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา นายเพลินพจน์ กิมเสาว์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นประธานในพิธีและเป็นวิทยากรอบรมพัฒนาความรู้และทักษะเรื่องเอชไอวี สิทธิมนุษยชน และความหลากหลายทางเพศ แก่บุคลากรทางสหวิชาชีพจังหวัดพังงา ณ ห้องประชุม 3 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา


ในวันที่ 15 มีนาคม 2566 นางวีณา อินทับ อัยการพิเศษฝ่าย คุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายภาค 8 ได้ตรวจติดตามผลการปฏิบัติตามแผนการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณพ.ศ.2566 ทางระบบ Zoom Meeting ของสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา


สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา ขอประกาศเจตนารมณ์ว่า “เป็นหน่วยงานที่เจ้าหน้าของรัฐทุกคนไม่รับของขวัญและของกำนัลทุกชนิดทั้งก่อน/ขณะ/หลังจากการปฏิบัติหน้าที่ (No Gift Policy)”


วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม 2566 นายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา นำคณะเจ้าหน้าที่เข้าร่วมพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะ พระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะทรงเป็น “พระบิดาแห่งมาตรฐานการช่างไทย” ณ ศูนย์ราชการจังหวัดพังงา


วันพุธที่ 1 มีนาคม 2566 นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ ผู้ตรวจการอัยการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติราชการของสำนักงานอัยการจังหวัดพังงา สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพังงา และสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา โดยมี นางทักษพร วิมลพันธุ์ อัยการจังหวัดพังงา นายเอกไกร เกียรติชัยประสพ อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพังงาและ นายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงาและคณะให้การต้อนรับ ณ สำนักงานอัยการจังหวัดพังงา


ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 นางทักษพร วิมลพันธุ์ อัยการจังหวัดพังงา นายเอกไกร เกียรติชัยประสพ อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพังงาและนายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา เข้าร่วมพิธีพระราชทานโล่รางวัลโครงการแนวทางปฏิบัติที่ดีในการขจัดความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กดีเด่น ประจำปีพุทธศักราช 2565 : การมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชนในการสร้างพลังบวกแก่เด็กและเยาวชน โดยสถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งสำนักงานอัยการในจังหวัดพังงา ได้รับรางวัลชมเชย ณ โรงแรมอัศวินแกรนด์ คอนเวนชั่น ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร


ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 นายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา เป็นประธานการประชุมคณะทำงานส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ในรูปแบบสหวิชาชีพจังหวัดพังงา ณ ห้องประชุม 1 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา


ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา ได้ดำเนินการจำหน่ายครุภัณฑ์ยานพาหนะและขนส่ง ชำรุด เสื่อมสภาพ จำนวน 1 คัน โดยวิธีการขายทอดตลาด ณ ห้องประชุมสำนักงานอัยการจังหวัดพังงา


ในวันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 นายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา นายเพลินพจน์ กิมเสาว์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และคณะเจ้าหน้าที่ได้จัดโครงการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ความสามารถในการไกล่เกลี่ยประนอมและระงับข้อพิพาทในระดับชุมชน ให้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารท้องถิ่น ในเขตอำเภอตะกั่วทุ่ง ณ ที่ประชุมอำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา


สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯ จังหวัดพังงา โดย นายมนูธรรม เหล่าสกุล และนายเพลินพจน์ กิมเสาว์ อัยการจังหวัดพังงา ได้ช่วยเหลือและประสานงานการก่อสร้างวัดให้กับทางพระเทพปัญญาโมลีเจ้าอาวาสวัดประชุมโยธี เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ.2566


ในวันที่ 9 มกราคม 2566 นายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงาร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบท 101 รูป ถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ให้ทรงหายจากพระประชวร ณ วัดสามัคคีธรรม (วัดป่าส้าน ) ตำบลแม่นางขาว อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา


วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2565 เวลา 08.30 น. นายเพลินพจน์ กิมเสาว์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับมอบหมายจากอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฏหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา นำคณะเจ้าหน้าที่เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วันปิยมหาราช ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สนามหน้าศาลากลางจังหวัดพังงา(หลังเก่า)


วันที่ 19 ตุลาคม 2565 เวลา 14.10 – 15.00 น. พบกับรายการ “กฎหมายใกล้ตัว” ทางระบบ F.M 100 MHz และ facebook “สวท พังงาเรดีโอ” โดยสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา


สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา โดยนายเพลินพจน์ กิมเสาว์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และนายนพดล ทองภิรมย์ นิติกรปฏิบัติการ ได้ออกช่วยเหลือคุ้มครองสิทธิทางศาลแก่ประชาชนนอกพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางมาที่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯ ได้


วันที่ 13 ตุลาคม 2565 นายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ได้เข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และพิธีวางพวงมาลาและถวายบังคม เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ หอประชุมจำปูน จังหวัดพังงา


วันที่ 28 กันยายน 2565 เวลา 08.00 น. ณ บริเวณลานหน้าเสาธง อาคารสำนักงานอัยการจังหวัดพังงา สำนักงานอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา พร้อมด้วยข้าราชการอัยการฝ่ายอัยการในจังหวัดพังงา ร่วมกิจกรรม “เคารพธงชาติและร้องเพลงชาติไทย” ในวันพระราชทานธงชาติไทย ประจำปี 2565


สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา เปิดทำการช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนในวันหยุดราชการ (ทุกวันเสาร์) โดยเริ่มทำการเปิดทำการพร้อมกันทั่วประเทศในวันนี้


ในวันที่ 20 กันยายน 2565 ท่านนิรุติ ศิลปรัศมี อัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายภาค 8 และคณะ ตรวจราชการและติดตามผลการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ 2565 สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา และสาขาตะกั่วป่า


สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายฯ (สคชจ.) ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป สคชจ.ทั่วประเทศจะเปิดทำการในวันหยุด (เฉพาะวันเสาร์) ตั้งเวลา 08.30 – 16.30 น. หากท่านใดต้องการปรึกษาปัญหากฎหมาย ขอตั้งผู้จัดการมรดก ขอเป็นผู้อนุบาล ฯลฯ สามารถเดินทางมายังสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายฯ (สคชจ.) ทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯจังหวัดพังงา(สคชจ.พง.) ของเราแห่งนี้ ฟรี!!! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น นอกจากค่าธรรมเนียมศาล


ทุกวันพุธ สัปดาห์ที่ 1 และที่ 3 ของทุกเดือน เวลา 14.10 – 15.00 น. พบกับรายการ “กฎหมายใกล้ตัว” ทางระบบ F.M 100 MHz และ facebook “สวท พังงาเรดีโอ” โดยสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา


ในวันที่ 5 กันยายน 2565 นายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา และคณะเจ้าหน้าที่ ได้จัดโครงการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ความสามารถในการไกล่เกลี่ยประนอมและระงับข้อพิพาทในระดับชุมชน ให้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาเทศบาล พนักงานเทศบาลและกรรมการชุมชน ในเขตอำเภอเมืองพังงา ณ ที่ประชุมอำเภอเมือง จังหวัดพังงา


ในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 นายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิฯ จังหวัดพังงา ได้มอบหมายให้นายเพลินพจน์ กิมเสาว์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด นายสุวภัทร ปานคง รองอัยการจังหวัด และเจ้าหน้าที่ เป็นวิทยากรให้ความรู้ด้านกฎหมายกับนักเรียนแผนการเรียนนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ “ในโครงการพัฒนาการอ่าน คิด วิเคราะห์และคิดอย่างสร้างสรรค์กิจกรรมค่ายทักษะนิติรัฐศาสตร์” ณ โรงเรียนทุ่งโพธิ์วิทยา


ในวันที่ 19 สิงหาคม 2565 นายธิติ คุ้มรักษ์ รองอธิบดีอัยการภาค 8 เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการแนวทางการปฏิบัติที่ดีในการขจัดความรุนแรงและเด็กดีเด่นพุทธศักราช 2565 โดยมีนายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุุ้มครองสิทธิฯ จังหวัดพังงา กล่าวรายงาน และนายอดิศร ปักเข็ม รองอธิบดีอัยการภาค 8 นางทักษพร วิมลพันธุ์ อัยการจังหวัดพังงา นายเอกไกร เกียรติชัยประสพ อัยการจังหวัดคดีเยาวชนฯ จังหวัดพังงา นายนราศักดิ์ ส่งศรีบุญสิทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 10 ตัวแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพังงา และคณะเจ้าหน้าที่ เป็นเกียรติในโครงการฯ ซึ่งมีการจัดกิจกรรมดนตรีบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชน ณ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต 10


วันที่ 28 กรกฏาคม 2565 นายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา พร้อมบุคลากร ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรและพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ หอประชุมจำปูน


ในวันที่ 17 สิงหาคม 2565 นายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา นายสุวภัทร ปานคง รองอัยการจังหวัด และคณะเจ้าหน้าที่ ร่วมกับเทศบาลตำบลทับปุด จัดโครงการฝึกอบรมความรู้ด้านกฎหมาย ให้แก่บุคลากรและเจ้าหน้าที่


สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงาร่วมกับวิทยาลัยเทคนิคพังงา จัดโครงการ อัยการสัญจร ฝึกอบรมความรู้ทางกฎหมาย ยุวกฎหมายรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคพังงา โดยกำหนดจัดฝึกอบรมเป็นเวลา 2 วัน ในวันที่ 19 และ 21 กรกฏาคม 2565


วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2565 เวลา 17.30 น.นายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา นำคณะเจ้าหน้าที่เข้าร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่มและพิธีถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาพัชรสุธาพิมลลักษณพระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2565ณ ศาลากลางจังหวัดพังงา ศูนย์ราชการจังหวัดพังงา


วันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2565

วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน 2565 นายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา นำคณะเจ้าหน้าที่ได้เข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรและเข้าร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่มและพิธีถวายพระพรชัยมงคลเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาพัชรสุธาพิมลลักษณพระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2565ณ ศาลากลางจังหวัดพังงา ศูนย์ราชการจังหวัดพังงา


บรรยายให้ความรู้

ในวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 นายมนูธรรม เหล่าสกุล อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา นายเพลินพจน์ กิมเสาว์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ได้บรรยายให้ความรู้เรื่องการตั้งผู้จัดการมรดกและภารกิจหน้าที่งานของ สคช. ให้แก่บุคลากรของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพังงา


กิจกรรมปลูกต้นไม้

กิจกรรมปลูกต้นไม้ โดย สำนักงานอัยการพังงา สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพังงา และสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา ร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อและปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม ณ บริเวณบ้านพักราชการ


ติดต่อหน่วยงาน

สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพังงา
เลขที่ 631/1 ถนนเพชรเกษม ตำบลท้ายช้าง
อำเภอเมือง จังหวัดพังงา
โทร.0 7648 1926 โทรสาร 0 7648 1925
E-mail pga-lawaid@ago.go.th

Facebook : สคชจ. พังงา

ที่ตั้งสำนักงาน