“วันฉัตรมงคล” 4 พฤษภาคม 2567 เป็นวันครบรอบปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่10 ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ไทยโดยสมบูรณ์ตามโบราณราชประเพณี
“วันฉัตรมงคล” [อ่านว่า ฉัด-ตฺระ-มง-คน, ฉัด-มง-คน] มีความหมายว่า “พระราชพิธีฉลองพระมหาเศวตฉัตร” เป็นวันที่ระลึกในการครบรอบปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยโดยสมบูรณ์ตามโบราณราชประเพณี
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พุทธศักราช 2562 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โดยทรงเฉลิมพระปรมาภิไธยตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว” เป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 10 แห่งพระมหาจักรีบรมราชวงศ์
โดยเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ต่อจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 และดำรงพระอิสริยยศเป็น “พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว”
และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ว่า

“…เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป…

ดังนั้นรัฐบาลไทยและพสกนิกร จึงได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม จัดงานพระราชพิธีฉลองพระเศวตฉัตรหรือรัฐพิธีฉัตรมงคล หรืออาจเรียกว่าพระราชพิธีฉัตรมงคล ซึ่งกระทำในวันบรมราชาภิเษก ถวายเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
แหล่งข้อมูลบางส่วน : https://www.thansettakij.com/royal/523566

พระราชกรณียกิจในรัชกาลที่ 10
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์มาโดยตลอด ตั้งแต่ยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร  เพื่อแบ่งเบาพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งในการพระราชพิธีสำคัญ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เกษตรกรไทย และพระราชพิธีทางศาสนาต่างๆ   นอกจากนี้ได้โดยเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินไปแปรพระราชฐานประทับแรมตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย โดยทรงติดตามความก้าวหน้าด้านการชลประทาน การสร้างเขื่อนต่างๆ และพระราชทานแนวพระราชดำริให้กรมชลประทานแก้ปัญหาตามที่ชาวบ้านกราบทูล ส่งให้ราษฎรมีน้ำใช้ในการเกษตรอย่างอุดมสมบูรณ์และช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในฤดูฝน   ทางราชการทรงเข้าประจำการ ณ กองปฏิบัติการทางอากาศพิเศษ เมืองเพิร์ท รัฐออสเตรเลียตะวันตก ประเทศออสเตรเลีย

  • ทรงเข้าร่วมปฏิบัติการรบในการต่อต้านการก่อการร้าย บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งการคุ้มกันพื้นที่บริเวณ รอบค่ายผู้อพยพชาวกัมพูชา ณ เขาล้าน จังหวัดตราด
  • 9 ธันวาคม พ.ศ. 2518 ทรงเข้ารับราชการเป็นนายทหารประจำกรมข่าวทหารบกกระทรวงกลาโหม
  • 6 ตุลาคม พ.ศ. 2521 ทรงดำรงตำแหน่งรองผู้บังคับกองพันทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์
  • 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2523 ทรงดำรงตำแหน่งผู้บังคับกองพัน ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์
  • 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2527 ทรงดำรงตำแหน่ง ผู้บังคับการ กรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์
  • 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 ทรงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการ ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์
  • 9 มกราคม พ.ศ. 2535 – ปัจจุบัน ทรงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัย สำนักผู้บัญชาการทหารสูงสุด ปัจจุบันคือ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ เป็นส่วนราชการในพระองค์

ด้านการบิน

  • 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2537 ทรงปฏิบัติหน้าที่ครูการบินเครื่องบินขับไล่แบบเอฟ-5 อี/เอฟ
  • พ.ศ. 2552 ทรงปฏิบัติหน้าที่นักบินที่ 1 เครื่องบินโบอิ้ง 737–400 ในเที่ยวบินสายใยรักแห่งครอบครัว ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และจัดหาอุปกรณ์ด้านการแพทย์ สำหรับโรงพยาบาลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้, (เที่ยวบินที่ ทีจี 8870 (กรุงเทพมหานครถึงจังหวัดเชียงใหม่) และเที่ยวบินที่ ทีจี 8871 (จังหวัดเชียงใหม่ถึงกรุงเทพมหานคร)

ด้านการทหาร 
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จพระราชดำเนินไปเยี่ยมที่ตั้งกองทหารหน่วยต่าง ๆ อยู่เสมอ จากการที่ได้ทรงศึกษาด้านวิชาทหารมานาน ทรงมีความรู้เชี่ยวชาญอย่างมาก และได้พระราชทานความรู้เหล่านั้นให้แก่ทหาร 3 เหล่าทัพ ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างแก่นายทหาร เอาพระทัยใส่ในความเป็นอยู่ทุกข์สุขของทหารผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาอย่างทั่วถึง รวมทั้งพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นทุนการศึกษาแก่บุตรของทหาร สิ่งเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดความเทิดทูนและความจงรักภักดีแก่เหล่าทหารเป็นอย่างยิ่ง   

ด้านการศึกษา 
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรเมื่อครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงปลูกต้นปาริชาต ณ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช   พระองค์พระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้อาคารของกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เป็นที่ตั้งของโรงเรียนอนุบาลชื่อว่า โรงเรียนอนุบาลทหารมหาดเล็กราชวัลลภ โดยในระยะแรกได้จัดการเรียนการสอนเฉพาะชั้นอนุบาล ต่อมา โรงเรียนได้ย้ายไปที่จังหวัดนนทบุรี และได้รับพระราชทานชื่อใหม่ว่า โรงเรียนอนุราชประสิทธิ์   นอกจากนี้ ยังพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สมทบเป็นค่าก่อสร้างโรงเรียนมัธยมศึกษาที่ตั้งอยู่ในชนบทห่างไกลคมนาคมไม่สะดวก กระทรวงศึกษาธิการ ได้สนองพระราชประสงค์ด้วยการน้อมเกล้าฯ ถวายโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาจำนวน 6 โรงเรียน เป็นโรงเรียนในพระราชูปถัมภ์ ได้แก่ (1) โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 1 นครพนม, (2)  โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 2 กำแพงเพชร, (3) โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา 3 สุราษฎร์ธานี, (4) โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 2 สงขลา, (5 )โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 3 ฉะเชิงเทรา และ (6) โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี 1 อุดรธานี   สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยาวชนในตำบลต่าง ๆ ทรงสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์เยาวชนตำบล รวมทั้งได้ทรงเป็นประธานงานวันเยาวชนแห่งชาติ วันที่ 20 กันยายน ของทุกปี และทรงเป็นประธานในพิธีปฏิญาณตนและสวนสนามของลูกเสือและเนตรนารี และสมาชิกผู้ทำประโยชน์   ทั้งนี้พระองค์ได้ทรงอุปการะเด็กกำพร้า คือ จักรกฤษณ์ และอนุเดช ชูศรี ที่ครอบครัวเสียชีวิตจากภูเขาถล่มเมื่อ พ.ศ. 2554 รวมทั้งครอบครัวของบูรฮาน และบุศรินทร์ หร่ายมณี ซึ่งบิดาถูกลอบสังหารจากเหตุความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะทรงอุปการะจนกว่าจะสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีหรือจนกว่าจะมีอาชีพสามารถเลี้ยงครอบครัวได้ เป็นต้น   สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2552 ด้วยพระราชปณิธานที่มุ่งสร้างความรู้ สร้างโอกาสแก่เยาวชนไทยที่มีฐานะยากจน ยากลำบาก แต่ประพฤติดี มีความสามารถในการศึกษา ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มั่นคงต่อเนื่องในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี ตามความสามารถของแต่ละคน เป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถและศักยภาพแก่เยาวชนไทย ต่อมาใน พ.ศ. 2553 มีพระราชดำริให้จัดตั้ง มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ม.ท.ศ.) ขึ้น โดยทรงเป็นองค์ประธานกรรมการ และทรงให้นำโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มาอยู่ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิฯ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืนสืบต่อไป ปัจจุบันมีนักเรียนทุนพระราชทานฯ ในโครงการทั้งสิ้นจำนวน 9 รุ่น ซึ่งที่ผ่านมานักเรียนทุนพระราชทานทุกรุ่นเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า มีอัตราสูงกว่าร้อยละ 97 โดยผู้ได้รับทุนพระราชทานไม่มีภาระผูกพันที่ต้องใช้ทุนคืน และเมื่อจบการศึกษา ทรงเปิดโอกาสให้สมัครเข้าถวายงานเป็นข้าราชบริพารในพระองค์ได้ตามความสมัครใจ
  
ด้านการแพทย์และสาธารณสุข 
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โปรดให้สร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชขึ้น เพื่อให้การรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยในถิ่นทุรกันดาร พระองค์ทรงเป็นองค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช พระองค์มีพระราชปณิธานให้เอาใจใส่รักษาพยาบาลพสกนิกรของพระองค์ให้ปลอดภัยจากความเจ็บไข้โดยทั่วหน้าเสมอกัน   

ด้านศาสนา 
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรเมื่อครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงประเคนผ้าไตร ประกาศนียบัตร และพัดยศ ในการตั้งภิกษุและสามเณรเปรียญ เนื่องในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง พ.ศ. 2551   สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงแสดงพระองค์เป็นพุทธมามกะที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2509 ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ   นอกจากนี้ มีพระราชศรัทธาออกบวชในพระพุทธศาสนา โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โปรดให้จัดการพระราชพิธีผนวช ณ พัทธสีมาวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521 โดยมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) เป็นพระอุปัชฌาย์ สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ สมเด็จพระธีรญาณมุนี (ธีร์ ปุณฺณโก) ถวายอนุสาสน์ ได้รับถวายพระสมณนามว่า “วชิราลงฺกรโณ” และได้ประทับอยู่ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ตลอดจนทรงลาสิกขาในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2521   นอกจากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ยังเสด็จพระราชดำเนินแทนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไปปฏิบัติพระราชกิจทางพระพุทธศาสนาอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะเมื่อครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เช่น เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามฤดูกาล เสด็จพระราชดำเนินแทนพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่นวันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และการถวายผ้าพระกฐินหลวงตามวัดต่าง ๆ เป็นต้น   สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจด้านศาสนาหลังจากเสด็จขึ้นทรงราชย์แล้ว คือ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน เนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม พ.ศ. 2559 ทรงพระราชอนุสรณ์คำนึงถึงสมเด็จพระบรมชนกนาถ และโปรดเกล้าฯ สถาปนาอิสริยยศ และเลื่อนอิสริยฐานันดรพระสงฆ์ที่ดํารงอยู่ในสมณคุณ และมีอุปการะยิ่งแก่การพระศาสนาดังกล่าวสูงขึ้น เพื่อจักได้บริหารพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองสถาพร ตามโบราณราชประเพณี   รวมทั้งยังทรงสถาปนาสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยได้เสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชด้วยพระองค์เองเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560   

ด้านการเกษตร 
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงทำปุ๋ยหมักจากผักตบชวาและวัชพืชอื่น ๆ เป็นปฐมฤกษ์ เพื่อพระราชทานแก่เกษตรกร สำหรับนำไปใช้ในการเพาะปลูกเป็นการเพิ่มผลผลิต ที่บ้านแหลมสะแก ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2528 นอกจากนี้ยังทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเพื่อส่งเสริมกิจการด้านเกษตรกรรม เช่น เสด็จฯ แทนพระองค์ในการพระราชพิธีพืชมงคล
  
ด้านการต่างประเทศ 
ทรงเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไปทรงเยือนมิตรประเทศทั่วทุกทวีป เช่น ประเทศอิตาลี สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น อิหร่าน เนปาล สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา สาธารณรัฐเปรู ออสเตรเลีย สิงคโปร์ นอกจากจะมุ่งเจริญสัมพันธไมตรีแล้ว ยังทรงสนพระราชหฤทัยในการทอดพระเนตรและศึกษากิจการต่างๆ ที่จะทรงนำประโยชน์มาใช้ในการพัฒนาประเทศไทย เช่น เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมชมกิจการทหาร ศิลปวัฒนธรรม อุตสาหกรรมและความเป็นอยู่ของประชาชน   นอกจากนี้เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เมื่อครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ  โปรดให้ พลอากาศโท ภักดี แสงชูโต นำผ้าห่มกันหนาว 20,000 ผืน ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยมีนายกษิต ภิรมย์ เป็นผู้รับมอบ  

แหล่งข้อมูล : บางส่วนจากวิกิพีเดีย,หนังสือ 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ
by ThaiQuote, 25 กรกฎาคม 2561 https://www.thaiquote.org/content/210302#!

*************************************************************************************************************************************************************************************************


ภาพกิจกรรม

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร
นางสาวศิรินทร พัฒนาอิทธิกุล อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต ร่วมพิธีสวดพระปริตรและเจริญพระพุทธมนต์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ณ วัดสะปำธรรมาราม จังหวัดภูเก็ต

เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา นางสาวศิรินทร พัฒนาอิทธิกุล อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พร้อมด้วยอัยการจังหวัดทุกสำนักงานภายในจังหวัดภูเก็ต ร่วมกันจัดงานรดน้ำดำหัวอัยการผู้ใหญ่ของจังหวัดภูเก็ต เวลา 14.00 น. ณ สำนักงานอัยการสูงสุด จังหวัดภูเก็ต

เนื่องในวันที่ 6 เมษายน 2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือพระรามาธิบดีที่ 1 ทรงเสด็จปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี จังหวัดภูเก็ตจึงจัดงานรัฐพิธีวันที่ระลึกประจำปี พ.ศ 2567 นายธนบดี ณ นคร อัยการจังหวัดผู้ช่วย เป็นตัวแทน อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ตพร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการ ร่วมงานรัฐพิธีเพื่อวางพานพุ่มถวายความจงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ ณ หอประชุมมหิศรภักดี ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชการกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน ของทุกปี นายวิกรม ดูวา อัยการจังหวัดผู้ช่วย เป็นตัวแทน อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายเป็นพระราชกุศลเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ณ วัดกะทู้จังหวัดภูเก็ต

เมื่อวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๗เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นางสาวศิรินทร พัฒนาอิทธิกุล อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการ เข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

เนื่องด้วย 31 มีนาคม เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 นายศราวุธ แก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต ร่วมพิธีซึ่งจังหวัดภูเก็ตได้จัดขึ้นในวันนี้ เพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในการทำนุบำรุงประเทศชาติ ให้เจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ด้าน ณ หอประชุมมหิศรภักดี ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

วันนี้ 13 มีนาคม 2567 นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาสดุดี “ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร” ตามที่จังหวัดภูเก็ตได้กำหนดจัดขึ้นเพื่อเชิญชูเกียรติประวัติของวีรสตรีทั้งสอง รวมถึงบรรพชนทั้งหลายที่ได้สละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดินไทยไว้ให้ลูกหลานจวบจนปัจจุบัน ณ อนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรี ท้าวศรีสุนทร (แยกท่าเรือ) จังหวัดภูเก็ต

ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ถวายภัตตาหารและเครื่องเขียนพระราชทาน แด่พระภิกษุ สามเณร ในการสอบบาลีสนามหลวง ครั้งที่ ๑ ครั้งหลัง พ.ศ.๒๕๖๗ ในส่วนภูมิภาค จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ ๕-๗ มีนาคม 2567
นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต มอบหมายนายธีระศักดิ์ ศรีตุลารักษ์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เข้าร่วมโครงการแทนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์วันพฤหัสบดีที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ สนามสอบวัดวิชิตสังฆาราม (วัดควน) อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

🇹🇭 ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ถวายภัตตาหารและเครื่องเขียนพระราชทาน แด่พระภิกษุ สามเณร ในการสอบบาลีสนามหลวง ครั้งที่ ๑ ครั้งหลัง พ.ศ.๒๕๖๗ ในส่วนภูมิภาค จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ ๕-๗ มีนาคม 2567
นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต มอบหมายนายสุธานี ศรีพิทักษ์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เข้าร่วมโครงการแทนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ในวันพุธที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ สนามสอบวัดวิชิตสังฆาราม (วัดควน) อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ถวายภัตตาหารและเครื่องเขียนพระราชทาน แด่พระภิกษุ สามเณร ในการสอบบาลีสนามหลวง ครั้งที่ ๑ ครั้งหลัง พ.ศ.๒๕๖๗ ในส่วนภูมิภาค จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ ๕-๗ มีนาคม 2567
นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต เข้าร่วมโครงการเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เมื่อวันอังคารที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ สนามสอบวัดวิชิตสังฆาราม (วันควน) อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 เวลา 14.00 น.พิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต เข้าร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อถวายพระพรชัยมงคล ณ ศาลาการเปรียญวัดกิตติสังฆาราม ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต
ทั้งนี้จะมีกำหนดให้มีพิธีในทุกวันที่ 28 ของทุกเดือนโดยครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดภูเก็ตจึงจัดกิจกรรมแสดงออกถึงความจงรักภักดี
💐นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการ เข้าร่วมกิจกรรมแสดงพลังเพื่อถวายกำลังใจแด่พระองค์ท่าน🎋
ด้วยความจงรักภักดีตลอดไป ณ อาคารหอประชุมจังหวัดภูเก็ต

นางกอร์ปกุล วินิจนัยภาค ผู้ตรวจการอัยการภาค 8 และนายฉัตรชัย ใจดี อธิบดีอัยการภาค 8 พร้อมด้วยคณะ เดินทางมาตรวจราชการ ณ สำนักงานอัยการภายในจังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ ได้ตรวจเยี่ยมสำนักงานอัยการทุกสำนักงาน พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคต่างๆ ด้านการดำเนินงานตามตัวชี้วัด อีกทั้ง ได้ให้รวบรวมปัญหาการดำเนินงานมาอภิปรายในที่ประชุม เพื่อหาแนวทางแก้ไขและเพิ่มประสิทธิภาพของงาน ให้ตรงตามนโยบายของอัยการสูงสุดต่อไป

เมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ.2567 เวลา 14.00 น. ด้วยคณะสงฆ์จังหวัดภูเก็ต ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดภูเก็ต กำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติถวายพระพรชัยมงคลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต เข้าร่วมพิธีดังกล่าวเพื่อถวายพระพรชัยมงคล ณ ศาลาการเปรียญ วัดสะปำธรรมาราม ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้จะมีกำหนดให้มีพิธีในทุกวันที่ 28 ของทุกเดือนโดยครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 1

วันที่ 17 มกราคม 2567 เนื่องในวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ประจำปี 2567 นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต เข้าร่วมพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันประสูติในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จังหวัดภูเก็ตจึงจัดให้มีพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลในการนี้มี นายสุธานี ศรีพิทักษ์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งรักษาราชการแทนอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการ เข้าร่วมพิธีเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และแสดงออกถึงความจงรักภักดีณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๖ จังหวัดภูเก็ต จัดพิธีเจริญพุทธมนต์ เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ครั้งที่ 12 ทั้งนี้ อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ตมอบหมาย “นายสุธานี ศรีพิทักษ์” อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เข้าร่วมพิธีเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่ทุกพระองค์ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้ ณ วัดท่าเรือ ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

๗ ธันวาคม วันคล้ายวันประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา วันนี้ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๖ เวลา ๐๗.๓๐ น. นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต ร่วมกิจกรรมพิธีตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลและถวายพระพร ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จังหวัดภูเก็ต จึงได้จัดกิจกรรมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลและวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายเป็นเครื่องราชสักการะ ในการนี้ นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการ เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ของพระองค์ท่าน วันอังคารที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๖
ณ ศาลากลาง จังหวัดภูเก็ต

เนื่องด้วยวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ของทุกปีเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ จังหวัดภูเก็ตจึงได้จัดให้มีพิธีสวดพระพุทธมนต์ทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและพิธีวางพวงมาลาเพื่อถวายเป็นราชสักการะ แด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว วันนี้​เวลา​ ๐๘.๐๐​ น. ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว โรงเรียนเทศบาลปลูกปัญญา ในพระอุปถัมภ์ฯ จังหวัดภูเก็ต ทั้งนี้ นางสาวมาธุสร ศัตรูลี้ รองอัยการจังหวัด พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการ สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต เข้าร่วมพิธีดังกล่าวเพื่อถวายสักการะและถวายพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

เมื่อวันที่ ๑๕ – ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ นายฉัตรชัย ใจดี อธิบดีอัยการภาค ๘ และคณะเดินทางมาตรวจราชการ ณ สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต และสำนักงานอัยการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีการประชุมเพื่อมอบนโยบายและแนวทางในการปฏิบัติราชการแก่พนักงานอัยการ ข้าราชการฝ่ายอัยการ บุคลากร และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน เพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับนโยบายของอัยการสูงสุด ทั้งนี้ มีนายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต หัวหน้าพนักงานอัยการแต่ละหน่วยงาน พนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติในการปฏิบัติงานและรับนโยบายดังกล่าวมาปฏิบัติ

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2566 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต เข้าร่วมพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ ห้องประชุม 120 ปี สมเด็จย่า อาคารประดู่แดง โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ภูเก็ต ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

เนื่องในวันปิยะมหาราช 23 ตุลาคม นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการ เข้าร่วมพิธีถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว วันจันทร์ ที่ 23 ตุลาคม 2566 ณ ศาลากลางหลังเก่า จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธี

วันที่ 16 ตุลาคม 2566 เวลา 16.30 นาฬิกา นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการ เข้าร่วมพิธีเปิดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ต ประจำปี 2566 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ72 พรรษา มหาราชินี (ลานมังกร)
#วางพานพุ่มเงินพุ่มทองเฉลิมพระเกียรติ
#ประเพณีถือศิลกินผักจังหวัดภูเก็ต

วันนี้ เวลา 07.30 นาฬิกา ร่วมพิธีสวดพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล และร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ เนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ตุลาคม 2566 โดยมีนายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการ บุคลากร และเจ้าหน้าที่ ของสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต เข้าร่วมพิธีดังกล่าว ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต ร่วมพิธีวางพานพุ่มและจุดเทียนชัย ถวายพระพรชัยมงคลแม่ของแผ่นดิน เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมชนนีพันปีหลวง” 12 สิงหาคม 2566 ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
#วันแม่แห่งชาติ

วันนี้ เวลา 07.30 นาฬิกา พิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา“สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ๑๒ สิงหาคม โดยมีนายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการ บุคลากร และเจ้าหน้าที่ ของสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต เข้าร่วมพิธีดังกล่าว ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๖ สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต โดยนายศราวุธ สุขแก้ว  อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการ ร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

นายศราวุธ สุขแก้ว  อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต ได้เข้าร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลและพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๖  ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

เนื่องในวโรกาส วันคล้ายวันพระราชสมภพของ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
สำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วยพนักงานอัยการ ข้าราชการฝ่ายอัยการ บุคลากร และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด ทั่วประเทศ ร่วมกันจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายพระพรชัยมงคลและถวายสัตย์ปฏิญาณ ในการเป็นข้าราชการที่ดีและเป็นพลังของแผ่นดิน ใต้ร่มโพธิสมภาณ ตลอดไป
ทั้งนี้ สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต ร่วมด้วยสำนักงานคดีแรงงานภาค ๘, สำนักงานคดีปกครองจังหวัดภูเก็ต, สำนักงานคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดภูเก็ต และสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดภูเก็ต
ร่วมกันจัดกิจกรรม เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๖ เวลาประมาณ ๐๙.๐๐ นาฬิกา ณ สำนักงานอัยการสูงสุดจังหวัดภูเก็ต นำโดยท่านปิยวัฒน์ พรไชยา อธิบดีอัยการสำนักงานคดีแรงงานภาค ๘ เป็นประธานในพิธีด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ปวงข้าพระพุทธเจ้า สำนักงานอัยการภายในจังหวัดภูเก็ต พนักงานอัยการ ข้าราชการฝ่ายอัยการ บุคลากร เจ้าหน้าที่ สำนักงานอัยการสูงสุด

ครบ ๘ รอบ “สมเด็จพระสังฆราช”
“อยู่ให้เขาเบาใจ ยามจากไปให้เขาอาลัยถึง ไม่ใช่อยู่ให้เขาหนักใจ จากไปให้เขาไล่ส่ง”
คำสอน: สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
(อัมพร อัมพโร)” องค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
———————————————————————-
เมื่อวันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต
ร่วมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการ บุคลากร เจ้าหน้าที่ ร่วมทำบุญ ตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่บุคลากรทุกคน

นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต ร่วมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการ และเจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต ร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ วันคล้ายวันพระราชสมภพของ “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี”
#ทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
#วางพานพุ่มเพื่อถวายเป็นเครื่องราชสักการะ
#จุดเทียนเพื่อถวายพระพรชัยมงคล
ในวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566 ณ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต
ทั้งนี้ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พร้อมด้วยพนักงานอัยการ ข้าราชการฝ่ายอัยการ สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต
ร่วมบันทึกเทป ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวโรกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี
ในวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ.2566 นี้
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

รายการพิเศษ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๖ https://www.facebook.com/nbtphuket/videos/154045627556726

สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต ร่วมพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล
เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาส “วันฉัตรมงคล” วันที่ 4 พฤษภาคม 2566
นำโดยนายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พนักงานอัยการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต
ณ บริเวณอาคาร สำนักงานอัยการสูงสุดจังหวัดภูเก็ต

บันทึกเทปถวายพระพรองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2566
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พร้อมด้วยพนักงานอัยการ ข้าราชการฝ่ายอัยการสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต

………………….เมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๖ นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พนักงานอัยการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และตักบาตรถวายพระกุศล เนื่องในโอกาสวันคล้ายพระราชสมภพ ๒๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๖ ณ วัดมงคลวราราม (วัดในยาง) ตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธี

เมื่อวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. 2566 นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พร้อมกับพนักงานอัยการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สำนักงานภายในจังหวัดภูเก็ต ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ วัดโฆษิตวิหาร ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต

นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต และคณะข้าราชการฝ่ายอัยการ ร่วมถวายราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึกวันคล้ายวันสวรรคต “สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” ณ หอประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ในวันพฤหัสบดีที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2566

เมื่อท่านทำให้เห็นเป็นแบบอย่างที่ดี…💐

พสมผุส ณ วันเวลามหาสงกรานต์ วันศุกร์ที่ 14 เมษายน พ.ศ.2566 เวลา 16:04:48น.

วันมหาสงกรานต์ ได้เริ่มต้นขึ้นตามหลักโหราศาสตร์ ข้าราชการอัยการ เจ้าหน้าที่ ของสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต พร้อมใจกันแสดงออกถึงความเคารพและขอพรปีใหม่ไทย ต่อ…

“นายศราวุธ สุขแก้ว” อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต

“นายสุธานี ศรีพิทักษ์” ผู้กลั่นกรองงาน 1

“นายธีระศักดิ์ ศรีตุลารักษ์” ผู้กลั่นกรองงาน 2

บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่นและชื่นหัวใจ เพราะต่างได้รับพรดีๆ กำลังใจดีๆ ในการดำเนินงานอีกด้วย

เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2566 นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต ร่วมสรงน้ำพระไพศรพณ์ และรดน้ำขอพรบรรพอัยการ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และการทำงาน ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ไทย (สงกรานต์) ทั้งนี้ มีข้าราชการอัยการของสำนักงานอัยการสูงสุดภายในจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เป็นภาพที่น่าประทับใจและเป็นตัวอย่างที่ดีแก่องค์กรทุกภาคส่วน ในการแสดงออกถึงความเคารพต่อผู้ใหญ่ภายในหน่วยงานตามประเพณีอันดีของไทย

นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต และคณะข้าราชการฝ่ายอัยการ ร่วมถวายราชสักการะ วางพานพุ่ม เนื่องในวันพระบามสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า จุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ ณ หอประชุมจังหวัดภูเก็ต ในวันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2566

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 นายสุธานี ศรีพิทักษ์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฎิบัติงาน ผู้กลั่นกรองงาน สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต  พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมพิธีปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์เพื่อน้อมถวายพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดีกรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ตามโครงการ “หนึ่งใจ…ให้ธรรมะ” ที่วัดเทพวนาราม (ม่าหนิก) ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต พระครูเมตตาภิรม เจ้าคณะจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานฝ่ายฆราวาส

เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2566 นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการ ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราสมภพ ๒ เมษายน ๒๕๖๖ และทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทจังหวัดภูเก็ตในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่วัดมงคลวราราม (วัดในยาง) ตำบลสาคู อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต โดยมี นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานในพิธี

เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2566 สำนักงานอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต นำโดยนางสาวปิยาภรณ์ พิสิฐพิทย์ อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต พนักงานอัยการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ของสำนักงานอัยการสูงสุดจังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมกิจกรรม “ไถ่ชีวิตโคเพื่อสร้างอาชีพให้เกษตรกรผู้ยากไร้” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ขอให้พระองค์ทรงหายจาก พระอาการประชวรโดยเร็ว

เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2566 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
นายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต เข้าร่วมพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ ห้องประชุม 120 ปี สมเด็จย่า อาคารประดู่แดง โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ภูเก็ต ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต

นายฉัตรชัย ใจดี อธิบดีอัยการภาค ๘ และคณะเดินทางมาตรวจราชการ ณ สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต และสำนักงานอัยการในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีการประชุมเพื่อมอบนโยบายและแนวทางในการปฏิบัติราชการแก่พนักงานอัยการ ข้าราชการฝ่ายอัยการ บุคลากร และเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน เพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับนโยบายของอัยการสูงสุด ทั้งนี้ มีนายศราวุธ สุขแก้ว อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต หัวหน้าพนักงานอัยการแต่ละหน่วยงาน พนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่ ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติในการปฏิบัติงานและรับนโยบายดังกล่าวมาปฏิบัติ

เกี่ยวกับสำนักงาน

ประวัติ
สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต

สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต เป็นหน่วยงานภายในสำนักงานอัยการสูงสุด และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานอัยการภาค ๘  ได้แยกออกมาจากสำนักงานอัยการจังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2561 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน

อำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต

   งานอำนวยความยุติธรรม
                1. งานอำนวยความยุติธรรม มีอำนาจในการดำเนินคดีอาญาที่มีอัตราโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3๐,๐๐๐ บาท เช่น คดีขับรถประมาท บาดเจ็บสาหัสหรือได้รับอันตรายแก่กาย, คดีฉ้อโกง, คดียักยอก, คดีทำให้เสียทรัพย์
, คดีหมิ่นประมาท, คดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย,คดีความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค, คดีความผิดตาม
พระราชบัญญัติการพนัน, คดีความผิดลหุโทษ คือ ความผิดซึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับ
ไม่เกิน 1,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับไม่เกินดังกล่าว

                2. งานรักษาผลประโยชน์ของรัฐ
                2.1 รับว่าต่าง แก้ต่างคดีแพ่งที่มีทุนทรัพย์ราคาไม่เกิน 3๐๐,๐๐๐ บาท
                2.2 รับแก้ต่างคดีอาญา ซึ่งเจ้าพนักงานของรัฐหรือราษฎร ผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการกระทำตามหน้าที่
และถูกฟ้องคดีอันเนื่องมาจากปฏิบัติตามหน้าที่หรือช่วยเหลือเจ้าพนักงาน (ราษฎรเป็นโจทก์ฟ้องคดีเอง)

                3. งานคุ้มครองสิทธิของประชาชน
                3.1 ร้องขอให้ศาลปล่อยตัวจำเลยหรือผู้ต้องหาที่ถูกคุมขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
                3.2 ร่วมชันสูตรพลิกศพผู้ซึ่งถึงแก่ความตายในระหว่างควบคุมของเจ้าพนักงาน หรืออันเนื่องมาจากการปฏิบัติการตามหน้าที่ของเจ้าพนักงาน (คดีวิสามัญฆาตกรรม)
                3.3 ดำเนินคดีอุทลุมตามบทบัญญัติของกฎหมาย ห้ามมิให้ผู้สืบสันดาน (ลูกหลาน ฯลฯ) ดำเนินคดีกับบุพการี
(บิดา, มารดา, ปู่, ย่า, ตา, ยาย)   กฎหมายจึงบัญญัติให้เป็นอำนาจของพนักงานอัยการเท่านั้นที่จำดำเนินการได้



เขตอำนาจรับผิดชอบ

สถานีตำรวจในความรับผิดชอบสำนวนการสอบสวนของสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต ดังต่อไปนี

สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต สถานีตำรวจภูธรป่าตอง สถานีตำรวจภูธรกะทู้ สถานีตำรวจภูธรถลาง
สถานีตำรวจภูธรท่าฉัตรไชย สถานีตำรวจภูธรฉลอง สถานีตำรวจภูธรวิชิต สถานีตำรวจภูธรกะรน
สถานีตำรวจภูธรเชิงทะเล สถานีตำรวจภูธรกมลา สถานีตำรวจภูธรสาคู


    

วิสัยทัศน์ (Vision)

“องค์กรนำในการใช้กฎหมาย เพื่อรักษาความยุติธรรมให้กับประชาชนและสังคม”

พันธกิจ (Missions)

1. ยกระดับคุณภาพมาตรฐานงานตามภารกิจ ด้านการอํานวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและช่วยเหลือทาง กฎหมายแก่ประชาชนให้มีคุณภาพ โปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา
2. พัฒนาความร่วมมือ บูรณาการเครือข่ายองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้านการพัฒนากระบวนการยุติธรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมของประเทศ
3. เพิ่มศักยภาพมาตรฐานกลไกการบริหารจัดการระบบงานและกระบวนการทํางานที่สําคัญ รวมทั้งการพัฒนาระบบติดตามประเมินผลและระบบจัดการองค์ความรู้เพื่อมุ่งสู่การสร้างนวัตกรรมโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นพื้นฐาน
4. พัฒนาองค์กรให้มีคุณภาพคู่คุณธรรมตามหลักธรรมาภิบาล บุคลากรมีสมรรถนะสูง มีคุณธรรม จริยธรรม และมีคุณภาพชีวิตที่ดี

โครงสร้าง (Structure)
วัฒนธรรมองค์กร

บุคลากร

ทำเนียบ
อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต

ลำดับ รายชื่ออัยการจังหวัด ระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง
1ว่าที่ ร.ต. นราชัย  พรธีระภัทร1 เมษายน 2561 – 31 มีนาคม 2562
2นายตะวัน สุขยิรัญ1 เมษายน 2562 – 31 มีนาคม 2563 
3นายวิวัฒน์ กิจจารึก1 เมษายน 2563 – 31 มีนาคม 2564 
4นายวิเชษฐ์ ศรีวิเศษ1 เมษายน 2564 – 31 มีนาคม 2565 
5นางสาวปิยาภรณ์ พิสิฐพิทย์1 เมษายน 2565 – 31 มีนาคม 2566 
6นายศราวุธ สุขแก้ว1 เมษายน 2566 – 31 มีนาคม 2567
7นางสาวศิรินทร พัฒนาอิทธิกุล1 เมษายน 2567 – ปัจจุบัน

ข้าราชการอัยการ

นางสาวศิรินทร  พัฒนาอิทธิกุล
อัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต

นายธีระศักดิ์ ศรีตุลารักษ์
อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
(ผู้กลั่นกรองงาน)

นายจักรกฤษ  แก้วฉาง
อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
(ผู้กลั่นกรองงาน)

พันตำรวจตรี อำพร มุสิกพันธ์
อัยการจังหวัดผู้ช่วย

นายวิกรม ดูวา
อัยการจังหวัดผู้ช่วย

นายธนบดี ณ นคร
อัยการจังหวัดผู้ช่วย

ข้าราชการธุรการ

นางถนอมจิต หนูเกตุ
ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ
นายสุวิทย์ ทับทิมไทย
นิติกรปฏิบัติการ
นางสาวพักตร์วิภา จันชู
นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ
นายจักรพงศ์ สันติราชัย
นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ
นางสาวสิรีธร เล้าเรืองตระกูล
นิติกรปฏิบัติการ
นางสาวกิตติยา ระวิวงศ์
นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ
นายชาญวิทย์ สงประสพ
นิติกรปฏิบัติการ
นายบุรวิช มณีรัตนโชติ
เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน
นางสาววิภารัตน์ วงค์นางาม
เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน
นางสาวนิตย์นภา นาคบุตร
เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน

จ้างเหมาบริการ

นายธนาภรณ์ วิวรรธน์โภคิน
พนักงานขับรถยนต์

สถิติคดี

สถิติคดี สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต
พ.ศ. 2561 – พ.ศ. 2567

รายละเอียดสถิติคดีแยกตามปี

ลำดับที่ประเภทสำนวน ม.ค. ก.พ. มี.ค.เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.ยอดรวม
1ส.128263791
2ส.1ฟ
3ส.221221962
4ส.2ก
5ส.311
6ส.424263181
7ส.4วาจา3643053831,052
8ส.5ก47112
ลำดับที่ประเภทสำนวน ม.ค. ก.พ. มี.ค.เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.ยอดรวม
1ส.1303538253234332528402825373
2ส.1ฟ
3ส.2231951322141716303241826227
4ส.2ก4444443545445
5ส.31113
6ส.4223625212622244033303020329
7ส.4วาจา3261912814672622092882742772312793333,418
8ส.5ก3245319313667

เอกสารเผยแพร่

ข้อแนะนำในการประกันตัว

๑. เตรียมหลักประกันให้พร้อม ศึกษาว่าจะใช้อะไรเป็นหลักประกันได้บ้าง
๒. หากหลักประกันนั้นไม่ใช้ของผู้ประกัน ต้องมีหนังสือมอบอำนาจที่เชื่อถือได้ เช่น ทำหนังสือมอบอำนาจที่ว่าการอำเภอต่อหน้าเจ้าพนักงาน
๓. หากไม่ได้รับอนุญาตให้ประกัน ให้ขอพบอัยการจังหวัด
๔. เมื่อได้รับอนุญาตให้ประกันจะต้องลงชื่อในสัญญาประกันและทางสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ตจะออกใบรับหลักประกันและวันเวลานัดให้ท่าน
๕. เมื่อท่านต้องถูกส่งตัวไปฟ้อง ให้ทำเรื่องราวขอรับหลักประกันคืนไว้ก่อน โปรดทราบด้วยว่าสัญญาประกันระหว่างผู้ประกันกับสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ตจะสิ้นสุดลงเมื่อศาลรับฟ้อง
๖. หากนายประกันไม่มาหรือไม่มีญาติมาด้วยในวันที่พนักงานอัยการส่งฟ้องศาลให้แจ้งเรื่องหลักประกัน ให้เจ้าหน้าที่ที่ทำเรื่องประกัน หรือหัวหน้าธุรการทราบเพื่อมีหนังสือแจ้งไปยังศาลว่าหลักประกันอยู่ที่สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต แต่สำนักงานอัยการจะรับรองให้เฉพาะหลักประกัน ไม่เกี่ยวกับตัวผู้ประกัน

หลักฐานในการขอประกันตัวทุกกรณี
๑. บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือใบอนุญาตขับรถของเจ้าของหลักทรัพย์
๒. บัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือใบอนุญาตขับรถของผู้ต้องหาหรือจำเลย
๓. ทะเบียนบ้านของเจ้าของหลักทรัพย์
๔. ทะเบียนบ้านของผู้ต้องหาหรือจำเลย

 การประกันตัวผู้ต้องหา

            ๑. ผู้ขอประกันตัวยื่นคำร้องขอประกันตัวพร้อมหลักฐานประกอบคำร้อง
            ๒. เจ้าหน้าที่รับคำร้อง/ตรวจสอบหลักฐานเสร็จแล้วลงเวลารับเรื่องที่หัวคำร้องกับกรอกแบบประเมิน ส่วนที่ ๑  ส่งให้ผู้ร้องขอประกัน
            ๓. เสนอคำร้องให้หัวหน้าพนักงานอัยการพิจารณา
            ๔. แจ้งผลการพิจารณาและทำสัญญาประกัน
            ๕. ผู้ร้องขอประกันกรองแบบประเมินใส่กล่องรับแบบประเมิน

การใช้บุคคลเป็นหลักประกัน

การใช้บุคคลเป็นหลักประกัน  มีหลักเกณฑ์ดังนี้

           ๑.  ข้าราชการพลเรือนระดับ  ๓ – ๕ ประกันได้ในวงเงินไม่เกิน  ๖๐,๐๐๐  บาท
           ๒. ข้าราชการพลเรือนระดับ  ๖ – ๘ ประกันได้ในวงเงินไม่เกิน  ๒๐๐,๐๐๐  บาท
           ๓. ข้าราชการพลเรือนระดับ  ๙ – ๑๐ ประกันได้ในวงเงินไม่เกิน  ๕๐๐,๐๐๐  บาท
           ๔. ข้าราชการพลเรือนระดับ  ๑๑ ประกันได้ในวงเงินไม่เกิน  ๘๐๐,๐๐๐  บาท
           ๕. ข้าราชการบำนาญตั้งแต่ระดับ  ๖  หรือเทียบเท่าขึ้นไปประกันได้ในวงเงินไม่เกิน  ๘๐๐,๐๐๐  บาท
           ๖. พนักงานรัฐวิสาหกิจประกันได้ทำนองเดียวกันกับข้าราชการอื่นตาม  ข้อ ๑ – ๔
          ๗. สมาชิกรัฐสภา , ข้าราชการการเมือง  ประกันได้ในวงเงินไม่เกิน  ๘๐๐,๐๐๐  บาท
          ๘.  สมาชิกสภาจังหวัด  สมาชิกสภาเทศบาล  กำนันและผู้ใหญ่บ้าน  ประกันได้ในวงเงินไม่เกิน  ๖๐,๐๐๐ บาท
          ๙. ทนายความ  ประกันตนเองหรือญาติได้ตามระเบียบและตามเกณฑ์  ดังนี้
               ๙.๑ ผู้ที่จดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นทนายความมาแล้วไม่เกิน  ๒ ปี  ประกันได้ในวงเงินไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท
               ๙.๒ ผู้ที่จดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นทนายความมาแล้ว  ๒  ปีขึ้นไป  แต่ไม่ถึง  ๕  ปี  ประกันได้ 
     ในวงเงินไม่เกิน  ๖๐,๐๐๐  บาท
               ๙.๓ ผู้ที่จดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นทนายความมาแล้วตั้งแต่  ๕  ปีขึ้นไป  แต่ไม่ถึง  ๑๕  ปี  
      ประกันได้ในวงเงินไม่เกิน  ๒๐๐,๐๐๐  บาท
               ๙.๔ ผู้ที่จดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นทนายความมาแล้วตั้งแต่  ๑๕  ปีขึ้นไป  ประกันได้ในวงเงิน ไม่เกิน
      ๕๐๐,๐๐๐  บาท

๑. สถานที่ติดต่อ
สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต

๒. หลักฐานที่ต้องนำไปแสดง
               สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/ข้าราชการ ของผู้ค้ำประกัน
               สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ค้ำประกัน
               ต้องนำสำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนสมรส พร้อมหนังสือยินยอมให้ใช้หลักทรัพย์ประกันตัวผู้ต้องหาของคู่สมรสด้วย

๓. หลักประกันที่ใช้ในสำนักงาน
              มีหลักทรัพย์อื่นมาวาง
              มีบุคคลมาเป็นประกัน
เอกสารการประกันตัวผู้ต้องหา
             ๑. บัตรประชาชนนายประกันและผู้ต้องหา
             ๒. สำเนาทะเบียนบ้านของนายประกันและผู้ต้องหา
             ๓. หลักทรัพย์ในการประกัน
                 โฉนดที่ดิน/สมุดเงินฝากธนาคาร/นส.๓,นส.๓ก/หนังสือรับรองเงินเดือน(กรณีบุคคลค้ำประกัน)

หลักเกณฑ์การขอประกันตัวผู้ต้องหาในคดีอาญา

1.ผู้มีสิทธิ์ยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหา ได้แก่ ตัวผู้ต้องหาหรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง

2.กรณีการใช้บุคคลเป็นหลักประกันในการปล่อยตัวชั่วคราว ไม่จำกัดเฉพาะข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และข้าราชการการเมืองเพียงเท่าน้ัน บุคคลอื่น ๆ ที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้เช่นกัน

3.การร้องขอประกันตัว ไม่ต้องเสียค่าเใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าคำร้อง ค่าสัญญาประกัน ค่าเขียนหรือพิมพ์คำร้อง เขียนสัญญาหรือพิมพ์ ประกัน รวมท้ังการพิจารณาการสั่งอนุญาตให้ประกันตัว

4.การเขียนหรือพิมพ์คำร้องขอประกันตัวและสัญญาประกันตัว ให้เขียนหรือพิมพ์ตามตัวอย่าง ที่สำนักงานได้จัดทำไว้เป็นตัวอย่างให้ดู หากผู้ขอ ประกันเขียนหรือพิมพ์ไม่ได้ สำนักงานได้จัดให้มีผู้เขียนหรือพิมพ์ให้ และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเขียนหรือพิมพ์แต่อย่างใด

5.เมื่อรับคำร้องขอประกันตัวแล้ว เจ้าหน้าที่ผู้รับคำร้องจะตรวจสอบความถูกต้องของคำร้อง สัญญาประกัน และหลักประกัน พร้อมกับลงเวลาการรับรองคำร้องไว้ที่บนหัวกระดาษคำร้อง กรณีผู้ร้องขอประกันมากราย จะจัดบัตรคิวและให้บริการตามลำดับ

6.การพิจารณาคำขอประกันตัว ปกติพนักงานอัยการจะอนุญาตให้ประกันตัวตามขอ ฉะนั้นอย่าหลงเชื่อคำแอบอ้างหรือการเรียกเงินเพื่อตอบแทน  การอนุญาตให้ประกันตัวดังกล่าว

7.พนักงานอัยการจะพิจารณาสั่งร้องขอประกันตัวภายในระยะเวลา 20 นาที นับแต่รับคำร้อง เว้นแต่ในบางกรณีที่มีเหตุสมควรที่ไม่อาจดำเนินการ  ได้แล้วเสร็จตามเวลาดังกล่าว ให้ขยายระยะเวลาเป็นไม่เกิน 30 นาที นับแต่รับคำร้อง โดยพนักงานอัยการหรือเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ผู้ขอประกันตัวทราบเหตุดังกล่าว

8.จะไม่มีข้ออ้างจากพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าผู้รับคำร้องไม่อยุ่ ไม่มีเจ้าหน้าที่เขียนหรือพิมพ์คำร้อง รวมทั้งพนักงานอัยการผู้สั่งอนุญาตคำร้องไม่อยู่เพราะเป็นหน้าที่ของสำนักงานที่จะต้องจัดเจ้าหน้าที่ทดแทนไว้บริการประชาชนเสมอ

ติดต่อหน่วยงาน

สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต
เลขที่ 15/1 ซอยหัชนานิเวศน์ 1 ถนนอนุภาษภูเก็ตการ  ตำบลตลาดใหญ่
อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต 83000
โทรศัพท์ 0 7653 0505
โทรสาร 0 7653 0506
E-mail : phuket-sum@ago.go.th
Facebook : สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต

Google maps สำหรับเปิดเพื่อเดินทางมายังสำนักงานอัยการคดีศาลแขวงภูเก็ต