ข่าวประชาสัมพันธ์

เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 นายกีรติ แก่นแก้ว อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่อาจารย์ฟิลิปปิน และรับคำร้องเพื่อดำเนินการไกล่เกลี่ยต่อไป

ประเพณีสงกรานต์ รดน้ำขอพร
สำนักงานอัยการจังหวัดมหาสารคาม
สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดมหาสารคาม

วันที่ 2 เมษายน 2567
สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม โดยท่านกีรติ แก่นแก้ว อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม ร่วมบูรณาการความร่วมมือกับสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติเขต 5 เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนจังหวัดมหาสารคาม

วันที่​ 2​ เมษายน​ 2567
นายกีรติ แก่นแก้ว ​อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี
จังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยข้าราชการฝ่ายอัยการ ร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและพิธีลงนามถวายพระพรเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2567 และวันอนุรักษ์มรดกไทย ณ วัดมหาชัยพระอารามหลวง​

วันที่​ 1 เมษายน​ 2567​
นายกีรติ แก่นแก้ว อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี
จังหวัดมหาสารคาม มอบหมายให้​ นายชยพล สุวรรณโกตา​ รองอัยการจังหวัด​  พร้อมข้าราชการฝ่ายอัยการร่วมพิธีถวายราชสักการะเนื่องใน

“วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระมหาเจษฎาราชเจ้า”และวันข้าราชการพลเรือน ณ หอประชุมจังหวัดมหาสารคาม
ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม

วันที่ 22 มกราคม 2566 เวลา 09.00 น นายวิโรจน์ น้อยภาสน์ อัยการจังหวัดคุ้มครองครองสิทธิ
และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
มอบหมายให้ นางสาวธิรดา สุขพิพัฒน์ผู้อำนวยการ สำนักอำนวยการ
นางสาวจารุวรรณ คำมุลคร นิติกรชำนาญการ  นายเอกพงษ์ สัตย์ญารักษ์ นิติกรปฎิบัติการ
และบุคลากรสำนักงานอัยการคุ้มครองครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย
และการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม เข้าร่วมโครงการปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
และหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้าง รอยยิ้มให้ประชาชนจังหวัดมหาสารคาม (จังหวัดเคลื่อนที่ )
ประจำเดือน มกราคม 2566 ณ โรงเรียนบ้านบ้านดอนสันติ ตำบลแห่ใต้
อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
โดยนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธาน

——————————————————————————-

วันที่​ 17​ มีนาคม​ 2566​
นายวิโรจน์น้อยภาสน์​อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี
จังหวัดมหาสารคาม มอบหมายให้​ นายวรวุฒิ​ ด่านซ้าย​ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด​  ร่วมกิจกรรมปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์น้อมถวายพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชรมหาวัชรราชธิดา  ตามโครงการ “หนึ่งใจ…ให้ธรรมะ” โดยมีพระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
และมีนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานฝ่ายฆราวาสณ​
วัดพุทธวนาราม (วัดป่าวังน้ำเย็น) ตำบลเกิ้ง อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม

————————————————————————-

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 นายวิโรจน์ น้อยภาสน์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย
และการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม  นายวรวุฒิ ด่านซ้าย อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
นายยิ่งพรัณณฐ์ คำภูเวียง รองอัยการจังหวัด ข้าราชการธุรการ  และบุคลากร
สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
และอำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม
ได้จัดโครงการฝึกอบรมความรู้เกี่ยวกับกระบวนการไกล่เกลี่ยประนอมพิพาทและระงับข้อพิพาทในระดับท้องถิ่น
ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองมหาสารคาม อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม

*******************************************************************************************************************

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566 เวลา 09.00 น นายวิโรจน์ น้อยภาสน์ อัยการจังหวัดคุ้มครองครองสิทธิ
และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
มอบหมายให้ นางสาวธิรดา สุขพิพัฒน์ผู้อำนวยการ สำนักอำนวยการ นางสาวจารุวรรณ คำมุลคร นิติกรชำนาญการ 
นายเอกพงษ์ สัตย์ญารักษ์ นิติกรปฎิบัติการ และบุคลากรสำนักงานอัยการคุ้มครองครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย
และการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม เข้าร่วมโครงการปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
และหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้าง รอยยิ้มให้ประชาชนจังหวัดมหาสารคาม (จังหวัดเคลื่อนที่ )
ประจำเดือน มกราคม 2566ณ โรงเรียนบ้านดงใหญ่ ตำบลดงใหญ่ อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม
โดยนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธาน

******************************************************************************************************************

วันที่ 18 มกราคม 2566 นายวิโรจน์ น้อยภาสน์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย
และการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม มอบหมายให้ นายวรวุมิ ด่านซ้าย อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
เข้าร่วมงานรัฐพิธีถวายสักการะเนื่องใน วันยุทธหัตถีสสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ณ หอประชุมจังหวัดมหาสารคาม
*******************************************************************************************************************

เมื่อวันที่ 15 , 21 ธันวาคม 2565 นายวิโรจน์ น้อยภาสน์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย
และการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม มอบหมายให้ นายยิ่งพรัณณฐ์ คำภูเวียง รองอัยการจังหวัด
นางสาวธิรดา สุขพิพัฒน์ ผู้อำนรวยการ สำนักอำนวยการ และนางสาวจารุวรรณ คำมุลคร นิติกร
สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและะการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
ตรวจเยี่ยมศูนย์อัยการคุ้มครองสิทธิฯ ตามบันทึกข้อตกลง (MOU)
ณ องค์การบริหารส่วนตำบลวังยาว อำเภอโกสุมพิสัย องค์การบริหารส่วนตำบลดอนกลาง อำเภอโกสุมพิสัย
องค์การบริหารส่วนตำบลนาโพธิ์ อำเภอกุดรัง องค์การบริหารส่วนตำบลหนองม่วง อำเภอบรบือ
องค์การบริหารส่วนตำบลสำโรง อำเภอนาเชือก องค์การบริหารส่วนตำบลดงใหญ่ อำเภอวาปีปทุม
และองค์การบริหารส่วนตำบลเม็กดำ อำเภอพยัคภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม

*******************************************************************************************************************

วันที่ 5 ธันวาคม 2565 นายวิโรจน์  น้อยภาสน์  อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย
และการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม ข้าราชการธุรการและบุคลากร ร่วมตักบาตรและถวายพานพุ่มดอกไม้
สักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
เนื่องใน “วันพ่อแห่งชาติ และวันชาติ” ประจำปี 2565

ณ วัดมหาชัย และหอประชุมจังหวัดมหาสารคาม
***********************************************************************************************************

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 เวลา 09.00 น นายวิโรจน์ น้อยภาสน์ อัยการจังหวัดคุ้มครองครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย
และการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม มอบหมายให้ นางสาวธิรดา สุขพิพัฒน์ ผู้อำนวยการ สำนักอำนวยการ

นางสาวจารุวรรณ คำมุลคร นิติกรชำนายการ นายเอกพงษ์ สัตย์ญารักษ์ นิติกรปฎิบัติการ และบุคลากร
สำนักงานอัยการคุ้มครองครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
เข้าร่วมโครงการปกป้องและเชิดชูสถาบัน พระมหากษัตริย์ และหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน
จังหวัดมหาสารคาม (จังหวัดเคลื่อนที่ ) ประจำเดือน พฤศจิกายน 2565
ณ โรงเรียนห้วยหนองแคนสูง ตำบลหนองแวง อำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม
โดยนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธาน

*******************************************************************************************************************

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565  เวลา 09.00 น. ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดมหาสารคาม
นายวิโรจน์  น้อยภาสน์  อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
มอบหมายให้  นายวรวุฒิ  ด่านซ้าย อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสุงสุด ข้าราชการธุรการและบุคลากร
ร่วมพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด ถวายราชสักการะเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
เนื่องใน “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” ประจำปี 2565

*****************************************************************************************************************************************************************

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565  นายวิโรจน์  น้อยภาสน์  อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย
และการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม  มอบหมายให้  นายยิ่งพรัณณฐ์ คำภูเวียง รองอัยการจังหวัด
สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
ประชุมทีมสหวิชาชีพช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพ ณ ห้องประชุมอำเภอเชียงยืน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม

*******************************************************************************************************************************************************************

นายวรวุฒิ ด่านซ้าย อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และนิติกร
ให้คำปรึกษากฎหมายแก่ประชาชน ในวันเสาร์

ซึ่งสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
ได้เปิดทำการ ในวันเสาร์ทุกสัปดาห์ ตั้งแต่ เวลา 08.30 น – 16.30 น.
*******************************************************************************************************************

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม 2565 เวลา 08.00 น. นายวิโรจน์ น้อยภาสน์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ
และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
มอบให้ นายยิ่งพรัณณฐ์ คำภูเวียง รองอัยการจังหวัด

สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
พร้อมด้วยข้าราชการธุรการ บุคลากร เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลาถวายบังคม
พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันปิยมหาราช
เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย
ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ด้านหน้าอาคารศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม

*******************************************************************************************************************************************************************

นายวิโรจน์​ น้อยภาสน์​ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
มอบหมายให้ นายวรวุฒิ​ ด่านซ้าย​ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด​
พร้อมด้วยข้าราชการธุรการ​ และบุคลากร​ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯ จังหวัดมหาสารคาม
ร่วมกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประกอบด้วยพิธีทำบุญตักบาตรเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล
ณ วัดมหาชัย พระอารามหลวง และพิธีวางพวงมาลา​ ณ หอประชุมจังหวัดมหาสารคาม

*******************************************************************************************************************

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565  นายวิโรจน์  น้อยภาสน์  อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย
และการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม    นายวรวุฒิ  ด่านซ้าย  อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด 

นายยิ่งพรัณณฐ์ คำภูเวียง รองอัยการจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ และนิติกร
ประชุมทนายความอาสา ประจำสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2565
*******************************************************************************************************************

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565  นายวิโรจน์  น้อยภาสน์  อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทาวงกฎหมาย
และการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม  มอบหมายให้  นายวรวุฒิ  ด่านซ้าย  อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด 
ประชุมทีมสหวิชาชีพช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพ

*******************************************************************************************************************

วันจันทร์ ที่ 4 กรกฎาคม 2565 เวลา 09.00 น. นายวิโรจน์  น้อยภาสน์  อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ
และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
มอบหมายให้ นายวรวุฒิ  ด่านซ้าย  อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด และบุคลากร 

สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย และการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม 
เข้าร่วมกิจกรรมโครงการจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ “ ณ. บึงกุย ตำบลหัวขวาง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
โดยมี นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในพิธี และหัวหน้าส่วนราชการ จิตอาสา ๙๐๔
ข้าราชการ ประชาชนจิตอาสาเข้าร่วม

*******************************************************************************************************************


วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565 เวลา 09.00 น.
นายวิโรจน์  น้อยภาสน์  อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
มอบหมายให้ นายวรวุฒิ  ด่านซ้าย  อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
และบุคลากร  สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม 

เข้าร่วมกิจกรรมโครงการจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ “
ณ. ลำห้วยกุดจอก ตำบลโพนทอง อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม
โดยมี นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในพิธี และหัวหน้าส่วนราชการ จิตอาสา ๙๐๔
ข้าราชการ ประชาชนจิตอาสาเข้าร่วม

*******************************************************************************************************************

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565
นายวิโรจน์ น้อยภาสน์ อัยการจังหวัดคุ้มครองครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
มอบหมายให้  นายวรวุฒิ  ด่านซ้าย  อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด  นางสาวศิกานต์  พงษ์พัฒนอำไพ  นิติกร
สำนักงานอัยการคุ้มครองครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม 
เข้าร่วมโครงการปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ และหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน จังหวัดมหาสารคาม
(จังหวัดเคลื่อนที่ ) ประจำเดือน มิถุนายน 2565 ณ โรงเรียนดอนสวรรค์หนองกุงใต้วิทยา
ตำบลกุดปลาดุก อำเภอชื่นชม จังหวัดมหาสารคาม
โดยมี นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธาน
ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือกทนายความอาสาและทนายความอาสาอาวุโส ครั้งที่ 2/2565
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565
นายวิโรจน์ น้อยภาสน์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
นายวรวุฒิ ด่านซ้าย อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด นายยิ่งพรัณณฐ์ คำภูเวียง รองอัยการจังหวัด

ข้าราชการธุรการ บุคลากรสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
และอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
ได้จัดโครงการฝึกอบรมความรู้เกี่ยวกับกระบวนการไกล่เกลี่ยประนอมพิพาทและระงับข้อพิพาทในระดับท้องถิ่น
ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2565
นายวิโรจน์ น้อยภาสน์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย

และการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
ได้มอบ นายยิ่งพรัณณฐ์ คำภูเวียง รองอัยการจังหวัด ข้าราชการธุรการ และบุคลากร
สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
เข้าร่วมกิจกรรมเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ​

พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2565
ทำบุญตักบาตร ณ วัดมหาชัย พระอารามหลวง
พิธีถวายเครื่องราชสักการะ​ (วางพานพุ่มทอง – พุ่มเงิน) และพิธีถวายพระพรชัยมงคล
ณ หอประชุมจังหวัดมหาสารคาม
โดยมีนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามเป็นประธาน
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565
นายวิโรจน์ น้อยภาสน์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ
และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
นายวรวุฒิ ด่านซ้าย อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
นายยิ่งพรัณณฐ์ คำภูเวียง รองอัยการจังหวัด ข้าราชการธุรการ และบุคลากร
สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
ร่วมกับ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอบรบือ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม
จัดโครงการฝึกอบรมความรู้ทางกฎหมายแก่ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
กับการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านและการคุ้มครองสิทธิประชาชนเกี่ยวกับเอดส์”
ณ ศาลาอเนกประสงค์วัดเวฬุวนารามบ้านหนองสิมน้อย หมู่ที่ ๙

ตำบลหนองสิมอำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม
โดยมีนายปรีชาพงศ์ ทองมี นายอำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม เป็นประธาน
เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565
นายวิโรจน์ น้อยภาสน์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ
และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
นายยิ่งพรัณณฐ์ คำภูเวียงรองอัยการจังหวัด
ข้าราชการธุรการและบุคลากร สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิ
และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม​
เข้าร่วมโครงการจิตอาสาเราทำความดีเพื่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
จิตอาสา คลองสวย น้ำใส คนไทยมีความสุขกำจัดผักตบชวาและวัชพืช หนองสาธารณะ
ตำบลบรบือ อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 เวลา 09.00 น
นายวิโรจน์ น้อยภาสน์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย

และการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
นายวรวุฒิ ด่านซ้าย อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
นางศราวดี วิมลสุรนาถ นิติกร และนักศึกษาฝึกประสบการณ์
ขอพบเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงทูลเกล้าฯถวายฎีกา รายนางดาว พิมจันทร์
ณ ตำบลนาข่า อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม

เกี่ยวกับสำนักงาน

ประวัติความเป็นมา

สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน มีชื่อย่อว่า สคช. ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๒๕ ในสังกัดสำนักงานอัยการสูงสุด ตามคำสั่งของกรมอัยการที่ ๑๗๔/๒๕๒๕ ลงวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๒๕

วัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง เพื่อคุ้มครองสิทธิื เสรีภาพ ผลประโยชน์และให้ความช่วยเหลือประชาชน ทางด้านกฎหมาย ต่อมาเมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๒๖ คณะรัฐมนตรีได้มีมติโอนโครงการให้ความช่วยเหลือทาง กฎหมายแก่ประชาชนในชนบทเขตยากจน ซึ่งขณะนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักนโยบายและแผน มหาดไทย มาให้สำนักงานอัยการสูงสุดรับผิดชอบดำเนินงานสิบมา ในวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๒๗ คณะรัฐมนตรีได้มีมติโอนงานช่วยเหลือทางกฎหมายแก่เกษตรกร และผู้ยากจน ซึ่งขณะนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมาให้ สคช. สำนัก งานอัยการสูงสุด รับผิดชอบดำเนินการิธีดำเนินการ ได้ดำเนินการตามแนวนโยบายที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ การพิจารณาพื้นที่เป้าหมายดำเนินงาน โดยนำเอาปัญหาที่แท้จริงของคนในท้องถิ่นที่แตกต่างกันไปในแต่ ละภูมิภาคและแต่ละพื้นที่เป็นตัวกำหนดพื้นที่ปฏิบัติการ โดยสำนักงานอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งจัดตั้งสำนัก งานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนประจำจังหวัดขึ้นทุกจังหวัดทั่วประเทศ เป็นการ ให้บริการฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายยกเว้นค่าธรรมเนียมในชั้นศาลที่ต้องเสียตามกฎหมาย

ผลการปฏิบัติงาน

สคช. ได้รับการคัดเลือกและยกย่องให้เป็นหน่วยงานดีเด่นระัดับชาติ สาขาพัฒนาสังคม พ.ศ. ๒๕๒๙ จากคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ในส่วนที่เกี่ยวกับประชาชนทั้งในกรุงเทพฯและในต่างจังหวัด ต่อมาคณะัรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๓๕ อนุมัติให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคีกติกา ระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (พ.ศ.๒๕๐๙) และจากเหตุผลดังกล่าวได้มี การจัดตั้งคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนระดับชาติขึ้น โดยมีนายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่ นายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็นประธาน ซึ่งคณะกรรมการฯไ้ด้กำหนดให้สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นแกน กลางในการจัดตั้งองค์กรทางด้านสิทธิมนุษยชน

โครงสร้างองค์กร

สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิและให้ความช่วยเหลือ ทางกฎหมายแก่ประชาชนสังกัดอยู่ ทั้งในส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ดังนี้

ส่วนกลาง ประกอบด้วย

สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (ส่วนกลาง)

สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายแผนช่วยเหลือทางกฎหมาย

สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิ

สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิประชาชนระหว่างประเทศ

สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค

สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายช่วยเหลือทางกฎหมาย 1 (รัชดาภิเษก)

สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายช่วยเหลือทางกฎหมาย 2 (หลักเมือง)

สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายช่วยเหลือทางกฎหมาย 3 (ธนบุรี)

สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (มีนบุรี)

ส่วนภูมิภาค

เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ต่างๆได้รับการบริการทางกฎหมาย จากพนักงานอัยการโดยเสมอภาคและทั่วถึงกันสำนักงานอัยการสูงสุดจึงมีคำสั่ง ให้จัดตั้งสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนประจำจังหวัด (สคช.จังหวัด)ขึ้น โดยมีหน้าที่สำคัญคือ เผยแพร่ความรู้และให้คำปรึกษาปัญหากฎหมายแก่ประชาชนจัดหาทนายความช่วยเหลือในทางอรรถคดี แก่ประชาชนผู้ยากจนและไม่ได้รับความเป็นธรรม ตลอดจนงานการประนอมข้อพิพาท

สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนในส่วนภูมิภาคประกอบด้วย

สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย เขต 1- 9 จำนวน 9 แห่ง สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนประจำจังหวัด (สคช.จังหวัด) ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานอัยการจังหวัด จำนวน 75 แห่ง

สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ประจำจังหวัดสาขา (สคช.จังหวัดสาขา) ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานอัยการจังหวัดประจำอำเภอ จำนวน 30 แห่ง

                  เนื่องจากสำนักงานอัยการสูงสุดได้ประกาศแบ่งส่วนราชการในสำนักงานอัยการสูงสุดใหม่โดยกำหนดให้มีสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีขึ้น โดยสำนักงานดังกล่าวจะปฎิบัติหน้าที่แทนสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน โครงสร้างดังกล่าวนอกจากงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแล้ว  จะมีภารกิจเพิ่มขึ้นในเรื่องของการบังคับคดี  คดีแพ่ง  คดีปกครอง  และคดีอาญา  เฉพาะในส่วนของการยึดทรัพย์สินใช้ค่าปรับตามคำพิพากษาตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของพนักงานอัยการ

โดยรูปแบบการให้บริการตามโครงสร้างใหม่จะเริ่มดำเนินการ
ในวันที่ 1 เมษายน 2557 เป็นต้นไป

 วิสัยทัศน์ของ สำนักอัยการสูงสุด (Vision)

” สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นสถาบันมาตรฐานระดับสากล ในการอำนวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐ การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม “

วิสัยทัศน์ของ สำนักงานคุ้มครอบสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน หรือ สคช. (Vision)

สคช. จะเป็นสถาบันมาตรฐานระดับสากลในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม

พันธกิจ (Mission)

สคช. มีภารกิจหลักในด้านการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและผลประโยชน์ของประชาชนโดยมีพันธกิจในการพัฒนางานด้านสิทธิมนุษยชน และส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนชาวไทยทั้งในประเทศและนอกประเทศ

เป้าประสงค์

เพื่อให้บรรลุพันธกิจดังกล่าว สำนักงานอัยการสูงสุดได้กำหนดเป้าประสงค์ไว้ว่า สคช.จะสามารถคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและสิทธิเสรีภาพของประชาชนชาวไทยอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ

ยุทธศาสตร์ (Strategy)

นำนโยบายและยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลมาพิจารณาประกอบกับแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด (พ.ศ.2551-2554) ซึ่งได้กำหนดยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวกับภารกิจของ สคช. ไว้ในยุทธศาสตร์ที่ 3 ว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน โดยมุ่งเน้นการสร้างพันธมิตร การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน การให้ความช่วยเหลือในการทำนิติกรรมและให้คำปรึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพการประนอมและระงับข้อพิพาททางแพ่ง การเผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายและการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ชาวไทยที่อยู่ในต่างประเทศและ การใช้มาตรการทางกฎหมายเพื่อรักษาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

บุคลากร

ข้าราชการฝ่ายอัยการ

นายกีรติ แก่นแก้ว
อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมาย
และการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม

นายวิฑูรย์ เชื้ออำไพ
อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
ผู้กลั่นกรองงาน

นายชยพล สุวรรณโกตา
รองอัยการจังหวัด

ข้าราชการฝ่ายธุรการ

นางสาวธิรดา  สุขพิพัฒน์
นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ
รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ

นางณิชชา ปราบภัย
เจ้าพนักงานธุรการชำนาญงาน

นางสาวศิกานต์ พงษ์พัฒนอำไพ
นิติกรชำนาญการ

นางสาวจารุวรรณ คำมุลคร
นิติกรชำนาญการ

นางสุปราณี คำพันธ์จันทร์
นักจัดการงานทั่วไปชำนาญการ

นายเอกพงษ์ สัตย์ญารักษ์
เจ้าพนักงานคดีปฏิบัติการ


จ้างเหมาในโครงการ

นางสาววรรณษา จัตุประสาร
เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป

นางดอกแก้ว ศรีทอง
นักการภารโรง

ทนายความอาสา

นางสาวเจษฎาพร จันทโสม

นายสุทธิจิตต์ สารจน์สิริกุล

นายกัปนาท จรัญเสริฐ

นางสาวสุณิสา ศิริวัฒน์

นางสาววิลาวัณย์ พันธัง

นายพัสกร โอภาณัฐสุชา

นายสัมฤทธิ์ คันธา

นางสาวณัฐฐินันท์ ยอดทหาร

ลำดับที่ชื่อ – นามสกุลปี พ.ศ
1 นายอัศวิน วรธรรมพินิจ2544-2545
2นายพงษ์ศักดิ์ วิริยะพานิชย์2545-2547 
3นายศิริพงษ์ เหลืองวงค์ไพศาล 2547-2548
4นายวิเศษ ศิริเดช2548-2549
5นายสรวิชิต ทองบัวบาน 2549-2550 
6นายอรรถพร นาคเรือง 2550-2551 
7นางกรรณิกา  พลเยี่ยม 2551-2552 
8นายนริศ ชำนาญชานันท์ 2552-2553 
9นายไพฑูรย์ ภู่กาญจนพร้อย 2553-2554 
10นายรัชดา จุฬารี2554-2556 
11นายศิริมงคล สุวรรณธาดา 2556-2557 
12นายรัชดา จุฬารี 2557-2558 
13นายฐนวรรษ นิติธรรมวิศรุต2558-2559
14พันตำรวจตรีพรรษวุฒ  สุวานิช2559-2560
15นายประสิทธิ์ แรงสู้2560-2561
16นายวรชัย ไชยวงศ์2561-2563
17นายสฤษดิ์ มาตย์สุรีย์2563-2564
18นายธีรพัฒน์ ทะไกรราช2564-2565
19นายวิโรจน์ น้อยภาสน์2565- ก.ย.2566
20นายอารยะ ธีระภัทรานันท์ต.ค.2566-ปัจจุบัน

สถิติงาน

ลำดับประเภทพ.ศ.2559พ.ศ.2560พ.ศ.2561พ.ศ.2562พ.ศ.2563พ.ศ.2564
1การคุ้มครองสิทธิทางศาลแก่ประชาชน264 366
2การให้คำปรึกษา924 1078 
3ไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทคดีแพ่งทั่วไป18 18
4ไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทหนี้นอกระบบ– 
5ไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาทคดีอาญา – 
6การบังคับคดี– 48 
7กระบวนการไกล่เกลี่ยประนอมและระงับข้อพิพาท105 304 
8เผยแพร่ความรู้ทางกฎหมายต่างๆแก่ประชาชน30313187
9ฝึกอบรมความรู้ทางกฎหมายแก่บุคคลกลุ่มต่างๆ568685

การยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก

การดำเนินงานคุ้มครองสิทธิ

           การดำเนินงานคุ้มครองสิทธิจะต้องปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการช่วยทางกฎหมายแก่ประชาชนพ.ศ.2533 อันเป็นการดำเนินคดีคุ้มครองสิทธิตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์บัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการ เช่น ร้องขอจัดการมรดก สั่งให้เป็นคนสาบสูญ ร้องขอตั้งผู้ปกครอง ฯลฯ ซึ่งการเนินงานคุ้มครองสิทธิ ถือว่าพนักงานอัยการเป็นตัวความเอง จึงไม่ต้องยื่นใบแต่งทนายความโดยมีความแตกต่างจากการดำเนินคดีแพ่ง ว่าต่างแก้ต่างให้ กระทรวง ทบวง กรม ซึ่งถือว่าเป็นคู่ความที่แท้จริง ฐานะของพนักงานอัยการมีฐานะเช่นเดียวกับทนายความโดยปกติ พนักงานอัยการจะรับดำเนินการด้านคุ้มครองสิทธิให้ทุกเรื่อง หากไม่ดำเนินการต้องเสนออธิบดีอัยการฝ่ายช่วยเหลือทางกฎหมายพิจารณาสั่งและแจ้งให้ผู้ร้องทราบตามระเบียบ หากคดีอยู่ในเขตอำนาจของศาลอื่น สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ต้องส่งเรื่องไปให้สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนประจำจังหวัด หรือ จังหวัดสาขา ที่มีอำนาจรับดำเนินการให้การดำเนินการคุ้มครองสิทธิ นอกจากยึดหลักให้บริการโดยรวดเร็วและเป็นธรรมแล้วยังต้องยึดหลักที่ไม่คำนึงถึงฐานะราย ได้ของผู้ร้องขอและไม่เป็นการฝ่าฝืน หรือ หลีกเลี่ยงกฎหมาย

การยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก

          เมื่อบุคคลใดตาย มรดกของบุคคลนั้นย่อมตกทอดแก่ทายาท ในปัจจุบันนี้ปรากฏว่า เมื่อเจ้ามรดกถึงแก่ความตายมีทรัพย์สิน จำนวนมากตกทอดแก่ทายาท อาจจะเป็นทายาทโดยธรรม หรือ โดยพินัยกรรม ในกรณีที่เจ้ามรดกมีทรัพย์สินซึ่งมีทะเบียนเป็นโฉนดที่ดิน หนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3ทะเบียนอาวุธปืน ทะเบียนรถยนต์ ซึ่งทรัพย์เหล่านี้ในการจัดการมรดก เจ้าพนักงานจะไม่ดำเนินการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนเกี่ยวกับทรัพย์สิน เหล่านั้น หากไม่มีการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการตามกฎหมายเสียก่อนโดยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้ราษฎรจำนวนมาก ได้มายื่นคำร้องขอความช่วยเหลือต่อสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.)  สำนักงานอัยการสูงสุดให้ยื่นคำร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกเกี่ยวกับทรัพย์สินเหล่านั้น 

เอกสารการยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.)

          ป.พ.พ.มาตรา 1713 ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการจะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกก็ได้ในกรณีดังต่อไปนี้           

          (1) เมื่อเจ้ามรดกตาย ทายาทโดยธรรม หรือ ผู้รับพินัยกรรมได้สูญหายไป หรือ อยู่นอกราชอาณาเขตหรือเป็นผู้เยาว์
          (2) เมื่อผู้จัดการมรดก หรือ ทายาทไม่สามารถ หรือ ไม่เต็มใจที่จะจัดการ หรือ มีเหตุขัดข้องในการจัดการหรือในการแบ่งปันมรดก
          (3) เมื่อข้อกำหนดพินัยกรรม ซึ่งตั้งผู้จัดการมรดกไว้ ไม่มีผลบังคับได้ด้วยประการใดๆ  การตั้งผู้จัดการมรดกนั้น ถ้ามีข้อกำหนดพินัยกรรมก็ให้ศาลตั้งตามข้อกำหนดพินัยกรรมและถ้าไม่มีข้อกำหนด

พินัยกรรมก็ให้ศาลตั้งเพื่อประโยชน์แก่กองมรดกตามพฤติการณ์และโดยคำนึ่งถึงเจตนาของเจ้ามรดกแล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร

 มาตรา 1718 บุคคลต่อไปนี้จะเป็นผู้จัดการมรดกไม่ได้
          (1) ผู้ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ
          (2) บุคคลวิกลจริต หรือ บุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ
          (3) บุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนล้มละลาย

เหตุในการยื่น

          (1) ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1599 เมื่อบุคคลใดตาย มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่ทายาท ทายาทอาจเสียไปซึ่งสิทธิในมรดกได้แต่โดยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ หรือ กฎหมายอื่น
          (2) ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1602 เมื่อบุคคลใดต้องถือว่าถึงแก่ความตายตามความในมาตรา 62 แห่งประมวลกฎหมายนี้มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่ทายาทกรณีแรกเป็นกรณีที่เจ้ามรดกได้ถึงแก่ความตายโดยธรรมชาติ คือ หัวใจหยุดเต้นและสมองไม่ทำงาน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 15

เขตอำนาจศาล 

          ในการยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดมรดกถือเป็นคดีไม่มีข้อพิพาท ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 4 จัตวา (ที่แก้ไขใหม่ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง(ฉบับที่ 12 พ.ศ.2534) งบัญญัติว่า “คำร้องขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ให้เสนอต่อศาลที่เจ้ามรดกมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลในขณะถึงแก่ความตายในกรณีที่เจ้ามรดกไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักร ให้เสนอต่อศาลที่ทรัพย์มรดกอยู่ในเขตศาล   ดังนั้น ตามกฎหมายดังกล่าวในการยื่นคำร้องขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดกจึงต้องยื่นคำร้องต่อศาลที่เจ้ามรดกมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล ในขณะถึงแก่ความตายเท่านั้นแต่ถ้าขณะเจ้ามรดกถึงแก่ความตายนั้นเจ้ามรดกไม่มีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาญาจักรการยื่นคำร้องให้ยื่นต่อศาลที่ทรัพย์มรดกอยู่ในเขตศาลนั้น

เอกสารที่ใช้ในการร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก

          1. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการของผู้ร้อง 4 ชุด
          2. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ร้อง 4 ชุด 
          3. เอกสารที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร้องกับเจ้ามรดก (ผู้ตาย)  4 ชุด(ทะเบียนสมรส , สูติบัตร ฯ )
          4. สำเนาทะเบียนบ้านของเจ้ามรดก (ผู้ตาย)  4 ชุด
          5. สำเนาใบมรณะบัตรของเจ้ามรดก (ผู้ตาย)  4 ชุด
          6. บัญชีเครือญาติของเจ้ามรดก  4 ชุด
          7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวข้าราชการ และทะเบียนบ้าน ของทายาทผู้ให้ความยินยอม  4 ชุด
          8.สำเนาใบมรณบัตรของบิดามารดาของผู้ตาย  หรือหนังสือรับรองการตายกรณีบิดามารดาของผู้ตาย (เจ้ามรดก) ถึงแก่ความตาย  4  ชุด
         9. สำเนาเอกสารเกี่ยวกับทรัพย์มรดกของเจ้ามรดก (ผู้ตาย)  4 ชุด(เช่น โฉนดที่ดิน , สมุดเงินฝาก ,ทะเบียนรถยนต์ฯ, ทะเบียนอาวุธปืน)       
         10. หนังสือให้การยินยอมในการร้องขอจัดการมรดกของทายาท  4 ชุด
         11. หลักฐานอื่นๆ ถ้ามี (ใบเปลี่ยนชื่อ , ใบเปลี่ยนนามสกุล)  4  ชุด

       หมายเหตุ เอกสารข้อ  6  และ 10  จัดทำที่ สำนักงานคุ้มของสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ ประชาชนสำนักงานอัยการจังหวัดมหาสารคาม

ขั้นตอนการดำเนินการ

          เมื่อมีผู้มาร้องขอให้คุ้มครองสิทธิ หรือ ช่วยเหลือทางกฎหมายที่สำนักงาน นิติกร หรือ ทนายความอาสาจะสอบถามผู้ร้องตรวจสอบเอกสารหลักฐานบันทึกข้อเท็จจริงให้สมบูรณ์ที่จะดำเนินการตามแบบบันทึกข้อเท็จจริงรวบรวมเอกสารเข้าสำนวนเมื่อพนักงานอัยการรับเรื่องจะตรวจว่าเอกสารครบถ้วนหรือไม่ที่จะดำเนินการถ้าไม่ครบจะแจ้งให้ผู้ร้องขอส่งมาเป็นสำเนาเอกสาร…เมื่อหลักฐานครบถ้วนพอดำเนินการได้…..พนักงานอัยการจะยื่นคำร้องต่อศาล ชำระค่าฤชาธรรมเนียม ค่าประกาศหนังสือพิมพ์และกำหนดวันนัดไต่สวน แจ้งวันนัดให้ผู้ร้องทราบนำผู้ร้องและต้นฉบับเอกสาร พยานหลักฐาน เข้าไต่สวนตามวันนัด จนศาลมีคำสั่งและส่งคำสั่งศาลให้ผู้ร้องทราบและขอคัดคำสั่งศาล หากศาลมีคำสั่งตามคำร้องขอแล้ว พนักงานอัยการก็เสนอขอยุติการช่วยเหลือต่ออัยการจังหวัดมหาสารคามพิจารณาสั่งต่อไป หากศาลไม่ได้มีคำสั่งตามคำร้องขอ ก็อาจเสนอพิจารณาอุทธรณ์ฎีกาต่อไป

เอกสารเผยแพร่

ติดต่อหน่วยงาน

สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดมหาสารคาม
เลขที่ 1 ถนนศรีสวัสดิ์ดำเนิน ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม 44000
โทรศัพท์ 0 4371 1533 โทรสาร 0 4371 1533

เอกสารประกอบการยื่นคำร้องขอตั้งเป็นผู้จัดการมรดก

บัญชีเครือญาติขอตั้งเป็นผู้จัดการมรดก

หนังสือให้ความยินยอมให้ตั้งเป็นผู้จัดการมรดกลงชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯจังหวัดมหาสารคาม

หนังสือให้ความยินยอมให้ตั้งเป็นผู้จัดการมรดกลงชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นิติกร เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นต้น