ข่าวประชาสัมพันธ์
วันที่ 29 เมษายน 2567 เวลา 08.00 น. นายธวัชชัย ว่องพรรณงาม อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมกิจกรรมปลูกต้อไม้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ บริเวณอ่างเก็บน้ำหนองเขียว ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 25 เมษายน 2567 นายธวัชชัย ว่องพรรณงาม อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมพิธีวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประจำปี 2567 ณ พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชานุสรณ์ ตำบลเมืองงาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 6 เมษายน 2567 นายธวัชชัย ว่องพรรณงาม อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะเข้าร่วมพิธีวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ ประจำปี 2567 ณ ห้องราชพฤกษ์ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 2 เมษายน 2567 นายธวัชชัย ว่องพรรณงาม อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะเข้าร่วมพิธีกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พิธีเจริญพระพุทธมนต์เฉลิมพระเกียรติ พิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม) เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ และวันอนุรักษ์มรดกไทย ณ ห้องราชพฤกษ์ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อำเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๗ นางสาวเพ็ญนิภา คุ้มได้อยู่ อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังเชียงใหม่ พร้อมคณะ เข้าร่วม การประกอบพิธีวันพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๗ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมเนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย 28 กันยายน ประจำปี 2566 โดยนางสาวเพ็ญนิภา คุ้มได้อยู่ อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ นำข้าราชการฝ่ายอัยการร่วมจัดกิจกรรมเคารพธงชาติและร้องเพลงชาติไทย เวลา 08.00 น. ณ บริเวณหน้าเสาธงอาคารสำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่
- เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๖ นางสาวเพ็ญนิภา คุ้มได้อยู่ อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ นำคณะเจ้าหน้าที่ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล และพิธีทางศาสนามหามงคล ๕ ศาสนา และ พิธีถวายเครื่องราชสักการะและ วางพานพุ่ม และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ๑๒ สิงหาคม๒๕๖๖ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๖ นางนัธพรรณ หว่านพืช อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับมอบหมายจากอัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ นำคณะเจ้าหน้าที่ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์และสามเณร จำนวน ๗๒ รูป และร่วมพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณการเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดินและพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในช่วงเช้า และเข้าร่วมพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ในช่วงค่ำ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ ๗ รอบ พระชนมพรรษา ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
นางสาวศรีสมวงศ์ ธรรมศิริ อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ และข้าราชการฝ่ายอัยการ เข้าร่วมพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา วันที่ ๒๓ ธันวามคม ๒๕๖๕ ณ บริเวณชั้น ๑ อาคารศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
ณ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนเขต ๗ จังหวัดเชียงใหม่
เกี่ยวกับสำนักงาน
ประวัติความเป็นมา
สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่
ตามที่พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ.2513 ประกอบกับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ.2494 พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ.2494 ได้มีผลบังคับใช้ กรมอัยการ (หรือ สำนักงานอัยการสูงสุด -ปัจจุบัน) ในขณะนั้น ได้มีการจัดตั้งสำนักงานอัยการประจำศาลคดีเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่ โดยเปิดดำเนินการตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2513 เป็นต้นไป มีอำนาจในการดำเนินคดีอาญา เฉพาะเด็กหรือเยาวชนที่กระทำผิดตลอดท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาได้มีการตราพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด พ.ศ.2534 ยกเลิกพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่ฯ ยกเลิกพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลคดีเด็กและเยาวชนฯ และพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนฯ โดยผลของกฎหมายฉบับนี้ ศาลเยาวชนและครอบครัวที่จัดตั้งขึ้นแทนศาลคดีเด็กและเยาวชน มีอำนาจพิจารณาคดีครอบครัวด้วย ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจหน้าที่ในการดำเนินคดีของสำนักงานอัยการประจำศาลคดีเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีอำนาจในการดำเนินคดีครอบครัวด้วยเช่นกัน จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น สำนักงานอัยการประจำศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ ต่อมาได้มีคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบกับร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการของสำนักงานอัยการสูงสุด ตามประกาศราชกิจจานุเบกษา ลงวันที่ 1 ธันวาคม 2546 จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อสำนักงานเป็น สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่
ในปัจจุบันสำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ มีเขตอำนาจในการดำเนินคดีตลอดท้องที่จังหวัดเชียงใหม่ เว้นแต่คดีที่เกิดขึ้นในเขตท้องที่อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย และอำเภอไชยปราการ ซึ่งสำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่(ฝาง) ซึ่งตั้งอยู่ในสำนักงานอัยการจังหวัดฝาง ที่มีอำนาจในการดำเนินคดี
ตราสัญลักษณ์
รูปพระมหาพิชัยมงกุฎประดิษฐานเหนือพระแว่น พระสุริยกานต์
และตราชูรูปพระขรรค์ รองรับด้วยช่อชัยพฤกษ์
สำนักงานอัยการสูงสุด แต่เดิมเป็นกรมอัยการ สังกัดกระทรวงมหาดไทย เครื่องหมายราชการและเครื่องหมายแสดงสังกัดจึงเป็นรูปตราราชสีห์ ต่อมาพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2534 ได้บัญญัติให้สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง อยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี จึงได้มี การกำหนดเครื่องหมายราชการและเครื่องหมายแสดงสังกัดขึ้นใหม่ สำหรับใช้เป็นเครื่องหมายราชการของสำนักงานอัยการสูงสุดและเป็นเครื่องหมายแสดงสังกัด ใช้กับเครื่องแบบข้าราชการฝ่ายอัยการ ประกอบกับกฎหมายว่าด้วย
ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ ได้บัญญัติให้นำกฎหมาย ว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน มาใช้บังคับกับข้าราชการธุรการของสำนักงานอัยการสูงสุด และกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน ได้บัญญัติให้เครื่องหมายแบบข้าราชการพลเรือน เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วย เครื่องแบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน และโดยที่กฎหมายว่าด้วยเครื่องแบบข้าราชการฝ่ายพลเรือน ได้บัญญัติให้ การกำหนดเครื่องหมายแสดงสังกัด สำหรับใช้กับเครื่องแบบข้าราชการพลเรือน ต้องออกเป็นกฎสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักนายกรัฐมนตรี จึงออกประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการกำหนดภาพเครื่องหมายราชการ ตามบัญญัติเครื่องหมายราชการ พุทธศักราช 2482 (ฉบับที่ 129) ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับลงวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2535 เล่ม 109 ตอนที่ 40 หน้า 104-105 และออกกฎสำนักนายกรัฐมนตรี ฉบับที่ 79 (พ.ศ. 2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติข้าราชการฝ่ายพลเรือน พุทธศักราช 2478 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ฉบับลงวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2535 เล่ม 109 ตอนที่ 51 หน้า 4-5 กำหนดเครื่องหมายแสดงสังกัดของสำนักอัยการสูงสุด เป็นรูปตราพระมหาพิชัยมงกุฎ ประดิษฐานเหนือพระแว่น สุริยกานต์ และตราชูรูปพระขรรค์ รองรับด้วยช่อชัยพฤกษ์
เครื่องหมายราชการ และเครื่องหมายแสดงสังกัดของสำนักงานอัยการสูงสุด จึงเปลี่ยนจากรูปตราราชสีห์เป็น รูปพระมหาพิชัยมงกุฎประดิษฐานเหนือพระแว่น พระสุริยกานต์ และตราชูรูปพระขรรค์ รองรับด้วยช่อชัยพฤกษ์ มีความหมายถึงอำนาจหน้าที่ในการเป็นทนายแผ่นดิน การใช้กฎหมายด้วยความรอบคอบ เป็นธรรม และเด็ดขาด มีชัยชนะเหนืออธรรม
อำนาจหน้าที่
อำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการ มีดังนี้
มาตรา ๑๔ พนักงานอัยการมีอำจานและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) อำนาจและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ
(๒) ในคดีอาญา มีอำนาจและหน้าที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและ ตามกฎหมายอื่นซึ่งบัญญัติว่าเป็นอำนาจและหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด หรือพนักงานอัยการ
(๓) ในคดีแพ่ง หรือคดีปกครอง มีอำนาจและหน้าที่ดำเนินคดีแทนรัฐบาล หน่วยงานของรัฐที่เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ราชการส่วนกลาง หรือราชการส่วนภูมิภาคในศาล หรือในกระบวนการทางอนุญาโตตุลากรทั้งปวง กับมีอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมายอื่นซึ่งบัญญัติว่าเป็นอำนาจและหน้าที่ของ สำนักงานอัยการสูงสุดหรือพนักงานอัยการ
(๔) ในคดีแพ่ง คดีปกครอง หรือคดีอาญา ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐถูกฟ้องในเรื่องการที่ได้กระทำไปตามหน้าที่ก็ดี หรือในคดีแพ่งหรือคดีอาญาที่ราษฎรผู้หนี่งผู้ใดถูกฟ้องในเรื่องการที่ได้ กระทำตามคำสั่งของเจ้าที่ของรัฐซึ่งได้สั่งการโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเข้าร่วมหรือช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งกระทำการในหน้าที่ราชการก็ดี เมื่อเห็นสมควรพนักงานอัยการจะรับแก้ต่างให้ก็ได้
(๕) ในคดีแพ่ง คดีปกครอง หรือกรณีมีข้อพิพาทที่ต้องดำเนินการทางอนุญาโตตุลาการ ที่หน่วยงานของรัฐซึ่งมิได้กล่าวใน (๓) หรือนิติบุคคลซึ่งมิใช่หน่วยงานของรัฐ แต่ได้มีพระราชบัญญัติด้วยกันเอง เมื่อเห็นสมควรพนักงานอัยการจะรับว่าต่างหรือแก้ต่างให้ก็ได้
(๖) ในคดีที่ราษฎรฟ้องเองไม่ได้โดยกฎหมายห้าม เมื่อเห็นสมควรพนักงานอัยการมีอำนาจเป็นโจทก์ได้
(๗) ดำเนินการตามที่เห็นสมควรเกี่ยวกับการบังคับคดีอาญาเฉพาะในส่วนของการยึด ทรัพย์สินใช้ค่าปรับตามคำพิพากษาก ในการนี้มิให้เรียกค่าฤชาธรรมเนียมจากพนักงานอัยการ
(๘) ในกรณีที่มีการผิดสัญญาประกันจำเลย หรือประกันรับสิ่งของไปดูแลรักษา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มีอำนาจและหน้าที่ดำเนินคดีในการบังคับให้เป็นไปตามสัญญานั้น ในการนี้มิให้เรียกค่าฤชาธรรมเนียมจากพนักงานอัยการ
(๙) อำนาจและหน้าที่ตาม ก.อ. ประกาศกำหนดหรือเห็นชอบเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือมติคณะรัฐมนตรี
(๑๐) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของพนักงานอัยการ
(๑๑) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด ตามที่ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด
ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการตามมาตรา ๑๔ (๓) (๔) และ (๕) พนักงานอัยการจะออกคำสั่งเรียกบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำก็ได้ แต่จะเรียกคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมาให้ถ้อยคำ โดยคู่ความฝ่ายนั้นไม่ยินยอมไม่ได้
พนักงานอัยการตำแหน่งใดมีอำนาจดำเนินการตามวรรคหนึ่งได้เพียงใดให้เป็นไป ตามระเบียบที่สำนักงานอัยการสูงสุด กำหนดโดยความเห็นชอบของ ก.อ.
วิสัยทัศน์ (Vision)
“องค์กรนำในการใช้กฎหมาย เพื่อรักษาความยุติธรรมให้กับประชาชนและสังคม”
พันธกิจ (Missions)
1. ยกระดับคุณภาพมาตรฐานงานตามภารกิจ ด้านการอํานวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและช่วยเหลือทาง กฎหมายแก่ประชาชนให้มีคุณภาพ โปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา
2. พัฒนาความร่วมมือ บูรณาการเครือข่ายองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้านการพัฒนากระบวนการยุติธรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมของประเทศ
3. เพิ่มศักยภาพมาตรฐานกลไกการบริหารจัดการระบบงานและกระบวนการทํางานที่สําคัญ รวมทั้งการพัฒนาระบบติดตามประเมินผลและระบบจัดการองค์ความรู้เพื่อมุ่งสู่การสร้างนวัตกรรมโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นพื้นฐาน
4. พัฒนาองค์กรให้มีคุณภาพคู่คุณธรรมตามหลักธรรมาภิบาล บุคลากรมีสมรรถนะสูง มีคุณธรรม จริยธรรม และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
โครงสร้าง (Structure)
วัฒนธรรมองค์กร
บุคลากร
ข้าราชการอัยการ
อัยการจังหวัดคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่
อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
รองอัยการจังหวัด
ข้าราชการธุรการ
นิติกรชำนาญการ
รักษาการในตำแหน่ง
ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ
นิติกรปฏิบัติการ
นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ
นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ
พนักงานขับรถยนต์
คนสวน
นักการภารโรง
ทำเนียบผู้บริหาร
ติดต่อหน่วยงาน
สำนักงานอัยการคดีเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่
ถนนเชียงใหม่-ลำปาง ตำบลวัดเกต อำเภอเมืองเมืองเชียงใหม่
จังหวัดเชียงใหม่ 50000
โทร/โทรสาร 053-246905 , 053-240867
E-mail. cm-ju@ago.go.th