ข่าวประชาสัมพันธ์
เกี่ยวกับสำนักงาน
อำนาจและหน้าที่ตาม พ.ร.บ. องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓
กำหนดให้องค์กรอัยการประกอบด้วย ก.อ. อัยการสูงสุด, และพนักงานอัยการอื่น โดยมีสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นหน่วยงานธุรการ
สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นส่วนราชการที่มีอิสระในการบริหารงานบุคคล การงบประมาณและการดำเนินการอื่น และนิติบุคคล โดยมีอัยการสูงสุดเป็นผู้บังคับบัญชาและเป็นผู้แทนนิติบุคคล และให้ข้าราชการฝ่ายอัยการสังกัดสำนักงานอัยการสูงสุด
อำนาจหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุด มีดังนี้
๑. ให้ความช่วยเหลือประชาชนในการดำเนินการทางกฎหมายรวมตลอดทั้งในการคุ้มครองป้องกันสิทธิและเสรีภาพของประชาชนและการให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน
๒. ให้คำปรึกษา และตรวจร่างสัญญาหรือเอกสารทางกฎหมายให้แก่รัฐบาล และหน่วยงานของรัฐ
๓. ให้คำปรึกษา และตรวจร่างสัญญาหรือเอกสารทางกฎหมายให้แก่นิติบุคคล ซึ่งมิใช่หน่วยงานของรัฐแต่ได้มีพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งขึ้น ทั้งนี้ ตามที่เห็นสมควร
๔. ดำเนินการเกี่ยวกับการบังคับคดีแพ่ง หรือคดีปกครองแทนรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐซึ่งพนักงานอัยการได้รับดำเนินคดีให้
๕. ดำเนินการตามที่รัฐมนตรีร้องขอ เว้นแต่การดำเนินการนั้นจะขัดต่องานในหน้าที่ หรืออาจทำให้ขัดต่อความเป็นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการ
๖. ดำเนินการเกี่ยวกับการฝึกอบรมเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาข้าราชการฝ่ายอัยการ
๗. ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐในการอำนวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน
๘. ติดต่อและประสานงานกับองค์กรหรือหน่วยงานต่างประเทศเกี่ยวกับเรื่องที่อยู่ในอำนาจและหน้าที่ของพนักงานอัยการหรือสำนักงานอัยการสูงสุด
๙. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของพนักงานอัยการหรือสำนักงานอัยการสูงสุด
ในการตรวจร่างสัญญาตาม (๒) และ (๓) ให้สำนักงานอัยการสูงสุดมีหน้าที่รักษาประโยชน์ของรัฐ ในการนี้ สำนักงานอัยการสูงสุดมีหน้าที่รายงานรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐตาม (๒) หรือนิติบุคคลตาม (๓) ที่เป็นคู่สัญญาให้ทราบถึงข้อที่ควรปรับปรุงหรือแก้ไขให้สมบูรณ์ ข้อเสียเปรียบหรือข้อที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ
อำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการตาม พ.ร.บ. องค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๑๔ มีดังนี้
๑. อำนาจและหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ
๒.ในคดีอาญา มีอำนาจและหน้าที่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและตามกฎหมายอื่นซึ่งบัญญัติว่าเป็นอำนาจและหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุดหรือพนักงานอัยการ
๓. ในคดีแพ่ง หรือคดีปกครอง มีอำนาจและหน้าที่ดำเนินคดีแทนรัฐบาล หน่วยงานของรัฐที่เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ราชการส่วนกลางหรือราชการส่วนภูมิภาคในศาล หรือในกระบวนการทางอนุญาโคตุลาการทั้งปวงกับมีอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมายอื่น ซึ่งบัญญัติว่าเป็นอำนาจและหน้าที่ของสำนักงานอัยการสูงสุดหรือพนักงานอัยการ
๔. ในคดีแพ่ง คดีปกครอง หรือคดีอาญา ซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐถูกฟ้องในเรื่องการที่ได้กระทำไปตามหน้าที่ก็ดีหรือในคดีแพ่งหรือคดีอาญาที่ราษฎรผู้หนึ่งผู้ใดถูกฟ้องในเรื่องการที่ได้กระทำตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งได้สั่งการโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเข้าร่วมหรือช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งกระทำการในหน้าที่ราชการก็ดี เมื่อเห็นสมควรพนักงานอัยการจะรับแก้ต่างให้ก็ได้
๕. ในคดีแพ่ง คดีปกครอง หรือกรณีมีข้อพิพาทที่ต้องดำเนินการทางอนุญาโตตุลาการที่หน่วยงานของรัฐซึ่งมิได้กล่าวใน (๓) หรือนิติบุคคลซึ่งมิใช่หน่วยงานของรัฐ แต่ได้มีพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งขึ้นเป็นคู่กรณีและมิใช่กรณีที่พิพาทกับรัฐบาลหรือระหว่างหน่วยงานของรัฐด้วยกันเอง เมื่อเห็นสมควรพนักงานอัยการจะรับว่าต่างหรือแก้ต่างให้ก็ได้
๖. ในคดีที่ราษฎรฟ้องเองไม่ได้โดยกฎหมายห้าม เมื่อเห็นสมควรพนักงานอัยการมีอำนาจเป็นโจทก์ได้
๗. ดำเนินการตามที่เห็นสมควรเกี่ยวกับการบังคับคดีอาญาเฉพาะในส่วนของการยึดทรัพย์สินใช้ค่าปรับตามคำพิพากษา ในการนี้มิให้เรียกค่าฤชาธรรมเนียมจากพนักงานอัยการ
๘. ในกรณีที่มีการผิดสัญญาประกันจำเลย หรือประกันรับสิ่งของไปดูแลรักษา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มีอำนาจและหน้าที่ดำเนินคดีในการบังคับให้เป็นไปตามสัญญานั้น ในการนี้มิให้เรียกค่าฤชาธรรมเนียมจากพนักงานอัยการ
๙. อำนาจและหน้าที่ตาม ก.อ. ประกาศกำหนดหรือเห็นชอบเพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย หรือมติคณะรัฐมนตรี
๑๐. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่ของพนักงานอัยการ
๑๑. ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กำหนดให้เป็นอำนาจและหน้าที่สำนักงานอัยการสูงสุด ตามที่ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด
ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานอัยการตามมาตาร ๑๔ (๓) (๔) และ (๕) พนักงานอัยการจะออกคำสั่งเรียกบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำก็ได้ แต่จะเรียกคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมาให้ถ้อยคำโดยคู่ความฝ่ายนั้นไม่ยินยอมไม่ได้
พนักงานอัยการตำแหน่งใดมีอำนาจดำเนินการตามวรรคหนึ่งได้เพียงใดให้เป็นไปตามระเบียบที่สำนักงานอัยการสูงสุดกำหนดโดยความเห็นชอบของ ก.อ.
วิสัยทัศน์ (Vision)
“องค์กรนำในการใช้กฎหมาย เพื่อรักษาความยุติธรรมให้กับประชาชนและสังคม”
พันธกิจ (Missions)
1. ยกระดับคุณภาพมาตรฐานงานตามภารกิจ ด้านการอํานวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและช่วยเหลือทาง กฎหมายแก่ประชาชนให้มีคุณภาพ โปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา
2. พัฒนาความร่วมมือ บูรณาการเครือข่ายองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้านการพัฒนากระบวนการยุติธรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมของประเทศ
3. เพิ่มศักยภาพมาตรฐานกลไกการบริหารจัดการระบบงานและกระบวนการทํางานที่สําคัญ รวมทั้งการพัฒนาระบบติดตามประเมินผลและระบบจัดการองค์ความรู้เพื่อมุ่งสู่การสร้างนวัตกรรมโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นพื้นฐาน
4. พัฒนาองค์กรให้มีคุณภาพคู่คุณธรรมตามหลักธรรมาภิบาล บุคลากรมีสมรรถนะสูง มีคุณธรรม จริยธรรม และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
โครงสร้าง (Structure)
ข้าราชการอัยการ
นายประเสริฐศักดิ์ สว่างเนตร
อัยการจังหวัดเทิง
นายประเสริฐ สิทธินวผล
อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด
ปฏิบัติหน้าที่ผู้กลั่นกรองงาน
ข้าราชการธุรการและจ้างเหมาบริการ
นางเฉลิมพันธ์ แสงมะณี
ผู้อำนวยการสำนักงานอำนวยการ
สำนักงานอัยการจังหวัดเทิง
ทำเนียบผู้บริหารสำนักงานอัยการจังหวัดเทิง
ลำดับ ที่ | ชื่อ – สกุล | ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ |
1 | นายภาวิด พยัคฆบุตร | 1 ตุลาคม 2545 – 30 เมษายน 2546 |
2 | นายบดินทร์ แสนสระดี | 1 พฤษภาคม 2546 – 30 เมษายน 2547 |
3 | นายสมศักดิ์ ศักดิ์พิบูลยจิตต์ | 1 พฤษภาคม 2547 – 30 เมษายน 2548 |
4 | นางธนานันท์ กาญจนนิรัติศัย | 4 พฤษภาคม 2548 – 30 เมษายน 2549 |
5 | นายวิทยา หวั่งประดิษฐ์ | 1 พฤษภาคม 2549 – 1 เมษายน 2550 |
6 | นายชลัมพร เพชรรัตน์ | 2 เมษายน 2550 – 31 มีนาคม 2551 |
7 | นายวีระพงศ์ หาญนำผลดี | 1 เมษายน 2551 – 30 มีนาคม 2554 |
8 | นายวีระศักดิ์ บุพพะเนติ | 1 เมษายน 2554 – 1 เมษายน 2555 |
9 | นายสุวรรชัย สิริจรรยาพงศ์ | 2 เมษายน 2555 – 31 มีนาคม 2557 |
10 | นายคมกริช ดุลยพิทักษ์ | 1 เมษายน 2557 – 31 มีนาคม 2558 |
11 | นายอภิชาต ถาใจ | 1 เมษายน 2558 – 31 มีนาคม 2560 |
12 | นายอนุสรณ์ วงศ์ใหญ่ | 1 เมษายน 2560 – 31 มีนาคม 2561 |
13 | นายไชยยศ สุขใส | 1 เมษายน 2561 – 31 มีนาคม 2562 |
14 | นายไพศาล ไชยวงษ์ | 1 เมษายน 2562 – 31 มีนาคม 2564 |
15 | นายอมรพันธุ์ กำพลวรรณ | 1 เมษายน 2564 – 31 มีนาคม 2565 |
16 | ร.ต.ท ยงยุทธ ไชยชมภู | 1 เมษายน 2565 – 31 มีนาคม 2566 |
17 | นางสาวกาญจนา อุปะละ | 1 เมษายน 2566 – 31 มีนาคม 2567 |
18 | นายประเสริฐศักดิ์ สว่างเนตร | 1 เมษายน 2567 – ปัจจุบัน |
สถิติคดีสำนักงานอัยการจังหวัดเทิง
ประเภทคดี | 2564 | 2565 | 2566 |
สำนวน ส.1 สารบบความอาญาปรากฎตัวผู้ต้องหาที่ส่งตัวมา | 1,192 | 829 | 743 |
สำนวน ส.4 สารบบฟ้องความอาญาด้วยวาจา | 410 | 1,228 | 1,197 |
สำนวน ส.2 สารบบรับความอาญาปรากฎตัวผู้ต้องหาที่ไม่ได้ส่งตัวมา | 63 | 67 | 127 |
สำนวน ส.2 ก.(เฉพาะคดีเปรียบเทียบปรับ) | 3,471 | 2,685 | 1,506 |
สำนวน ส.3 สารบบความอาญาไม่ปรากฎตัวผู้กระทำผิด(งดการสอบสวน) | 162 | 230 | 223 |
สำนวน ส. 4 สารบบฟ้องความอาญา | 1,159 | 810 | 698 |
สำนวนคดีฟื้นฟู (ส.1 ฟ) | 897 | 149 | – |
สำนวน ส.5 สารบบความอาญาที่แก้ต่าง | 1 | – | – |
สำนวน ส.5 ก. สารบบความแพ่ง | 20 | 24 | 15 |
สำนวน ส.12. สารบบรับสำนวนชันสูตรพลิกศพ (กรณีตายโดยการกระทำของเจ้าพนักงานฯ) | 0 | 2 | – |
สำนวน ส.12ก. สารบบรับสำนวนชันสูตรพลิกศพ (กรณีที่ความตายมิได้เป็นผลแห่งการกระทำความผิดอาญา) | 0 | 3 | 8 |
สำนวน ส. 6 สารบบอุทธรณ์ | 98 | 228 | 78 |
สำนวน ส.7 สารบบฎีกา | 14 | 6 | 40 |
หลักเกณฑ์ในการประกันตัวผู้ต้องหา
การขอประกันตัวผู้ต้องหาในคดีอาญา
1. ผู้มีสิทธิยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหา ได้แก่ ต้วผู้ต้องหาหรือผู้มีประโยชน์เกี่ยวข้อง
2. กรณีการใช้บุคคลเป็นหลัก ประกันในการปล่อยตัวชั่วคราว ไม่จำกัดเฉพาะ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และข้าราชการการเมือง บุคคลอื่น ๆ ที่มีความน่าเชื่อถือ สามารถใช้สิทธินี้ได้เช่นกัน
3. การร้องขอประกันตัวไม่ตอ้งเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าคำร้องค่าสัญญาประกันค่าเขียนหรือพิมพ์คำร้อง เขียนสัญญาหรือ พิมพ์สัญญาประกัน รวมทั้งการพิจารณาการสั่งอนุญาตให้ประกันตัว
4. การเขียนหรือพิมพ์คำร้องขอประกันตัวและสัญญาประกันตัว ให้เขียนหรือพิมพ์ ตามตัวอย่างที่สำนักงานได้จัดทำไว้เป็นตัวอย่างให้ดู หากผู้ขอประกันเขียนหรือพิมพ์ไม่ได้สำนักงานได้จัดให้มีผู้เขียนหรือพิมพ์ให้และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเขียนหรือพิมพ์แต่อย่างใด
5. เมื่อรับคำร้องขอประกันตัวแล้ว เจ้าหน้าที่ผู้รับคำร้องจะตรวจสอบความถูกต้องของ คำร้อง สัญญาประกันและหลักประกัน
6. การพิจารณาคำขอประกันตัวปกติพนักงานอัยการจะอนุญาตให้ประกันตัวตามขอ ฉะนั้นอย่าหลงเชื่อคำแอบอ้าง การเรียกเงินเพื่อตอบแทนการอนุญาตให้ประกันตัวดังกล่าว
7. พนักงานอัยการจะพิจารณาสั่งคำร้องขอประกันตัวภายในระยะเวลา 20 นาทีและไม่เกิน 30 นาทีนับแต่รับคำร้อง
8. จะไม่มีข้ออ้างจากพนักงานเจ้าหน้าที่ว่าผู้รับคำร้องไม่อยู่ไม่มีเจ้าหน้าที่เขียนหรือพิมพ์คำร้อง รวมทั้งพนกังานอยัการผู้สั่งอนุญาตคำร้องไม่อยู่ เพราะเป็นหน้าที่ของสำนักงานที่จะต้องจัดเจ้าหน้าที่ทดแทนไว้บริการประชาชนเสมอ
การประกันโดยมีประกันและหลักประกัน หมายถึง การประกันตัวผู้ต้องหา นอกจากมีสัญญาประกันแล้วยังจะต้องมีหลักประกันอีกด้วยทั้งนี้ ถ้าหากว่ามีการผิดสัญญาประกันแล้วพนักงานอัยการ จะได้ยึดหลักประกันนั้นมาใช้เป็นค่าปรับ
หลักประกันมี 4 ชนิด คือ
- เงินสด โดยใช้สมุดเงินฝากธนาคารประเภทประจำ – หนังสือรับรองยอดเงินฝากคงเหลือปัจจุบัน – ขอรับหนังสือที่สาขาธนาคารที่เปิดบัญชี
- สลากออมทรัพย์ ธกส. สลากออมสิน
- โฉนดที่ดิน น.ส.3, น.ส.3 ก. ต้องมีหนังสือรับรองการประเมินราคาที่ดิน
- บุคคลเป็นหลักประกัน โดยใช้หนังสือรับรองจากต้นสังกัด แสดงสถานะตำแหน่ง ระดับ อัตราเงินเดือน
หลักฐานการประกันตัวนำไปแสดงเพิ่มเติมเฉพาะกรณี
- กรณีของเจ้าของหลักทรัพย์มีคู่สมรส – หนังสือให้ความยินยอมของคู่สมรส – สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาบัตรข้าราชการพนักงานรัฐวิสาหกิจ ของคู่สมรส
- กรณีเจ้าของหลักทรัพย์หย่าจากคู่สมรสแล้ว – สำเนาใบสำคัญการหย่า
- กรณีคู่สมรสเจ้าของหลักทรัพย์ถึงแก่กรรมแล้ว – สำเนามรณบัตร หรือทะเบียนบ้านประทับตราว่า “ตาย” หน้าชื่อคู่สมรส
- กรณีชื่อตัวหรือชื่อสกุล เจ้าของหลักทรัพย์ตามบัตรของทางราชการไม่ตรงกับ ที่ปรากฎในหลักทรัพย์ – หนังสือรับรองว่า เป็นบุคคลคนเดียวกันออก ณ ที่ว่าการอำเภอท้องที่ ที่เจ้าของหลักทรัพย์ ชื่อในทะเบียนบ้าน
- กรณีชื่อตัวหรือ ชื่อ สกุล เจ้าของหลักทรัพย์ตามบัตรของทางราชการไม่ตรงกับ ที่ปรากฏในหลักทรัพย์ เนื่องจากการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล – หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล
- กรณีชื่อ สกุล เจ้าของหลักทรัพย์ตามบัตรของทางราชการไม่ตรงกับที่ปรากฏในหลักทรัพย์เนื่องจากเปลี่ยนชื่อ สกุล เพราะทำการสมรสแล้ว – สำเนาใบสำคัญการสมรส
- กรณีเจ้าของหลักทรัพย์ต้องการมอบอำนาจให้ผู้อื่นทำประกันแทน – ทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ พร้อมสำเนา 1 ชุด – บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจของผู้รับมอบอำนาจขอหลักทรัพย์คืนได้ทันทีโดยแสดงหลักฐานคือ ใบรับหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ออก ให้เมื่อครั้งที่ได้ยื่นประกัน – หนังสือมอบอำนาจพนักงานอัยการจะใช้ดุลยพินิจสั่งโดยอาศัยหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะอนุญาตใหประกันตัวหรือจะ ไม่อนุญาตก็ได้
การขอรับหลักทรัพย์คืน
สัญญาประกันจะสิ้นสุดลงเมื่อ พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาเป็นจำเลยต่อศาลแล้ว หรือพนักงานอัยการได้มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาต่อศาล นายประกันสมารถขอหลักทรัพย์คืนได้ทันทีโดยแสดงหลักฐาน คือ ใบรับหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ออกให้เมื่อครั้งที่ได้ยื่นประกัน
หน้าที่ของนายประกัน
ในกรณีที่พนักงานอัยการมีคำสั่งให้ประกันตัวผู้ต้องหา นายประกันมีหน้าที่ต้องส่งตัวตามกำหนดนัดของพนักงานอัยการทุกครั้ง
การผิดสัญญาประกัน
ในกรณีผิดสัญญาประกันต่อพนักงานอัยการ พนักงานอัยการมีอำนาจสั่ง บังคับตามสัญญาประกัน
ที่ตั้งสำนักงานอัยการจังหวัดเทิง
เลขที่ 157 หมู่ 20 ตำบลเวียง อำเภอเทิง
ถนนพิศาล ตำบลเวียง อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย 57160
ตั้งอยู่ด้านหลังศาลจังหวัดเทิง
โทรศัพท์ :0-5379-5627 โทรสาร : 0-5379-5628
E-mail :Thoeng@ago.go.th