ข่าวประชาสัมพันธ์
เกี่ยวกับสำนักงาน
ประวัติความเป็นมา
สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน มีชื่อย่อว่า สคช.ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๒๕ ในสังกัดสำนักงานอัยการสูงสุด ตามคำสั่งของกรมอัยการ ที่ ๑๗๔/๒๕๒๕ ลงวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๒๕
วัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง เพื่อคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ผลประโยชน์และให้ความช่วยเหลือประชาชน ทางด้านกฎหมาย ต่อมาเมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๒๖ คณะรัฐมนตรีได้มีมติโอนโครงการให้ความช่วยเหลือทาง กฎหมายแก่ประชาชนในชนบทเขตยากจน ซึ่งขณะนั้น อยู่ในความรับผิดชอบของสำนักนโยบายและแผนมหาดไทย มาให้สำนักงานอัยการสูงสุดรับผิดชอบดำเนินงานสิบมา ในวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๒๗ คณะรัฐมนตรีได้มีมติโอนงานช่วยเหลือทางกฎหมายแก่เกษตรกร และผู้ยากจน ซึ่งขณะนั้นอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมาให้ สคช.สำนักงานอัยการสูงสุด รับผิดชอบดำเนินการวิธีดำเนินการ ได้ดำเนินการตามแนวนโยบายที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ การพิจารณาพื้นที่เป้าหมายดำเนินงาน โดยนำเอาปัญหาที่แท้จริงของคนในท้องถิ่นที่แตกต่างกันไปในแต่ ละภูมิภาคและแต่ละพื้นที่เป็นตัวกำหนดพื้นที่ปฏิบัติการ โดยสำนักงานอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งจัดตั้งสำนัก งานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนประจำจังหวัดขึ้นทุกจังหวัดทั่วประเทศ เป็นการ ให้บริการฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายยกเว้นค่าธรรมเนียมในชั้นศาลที่ต้องเสียตามกฎหมาย
ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๖ ได้มีประกาศคณะกรรมการอัยการ เรื่องการแบ่งหน่วยงานและการกำหนดอำนาจและหน้าที่ของหน่วยงานภายในของสำนักงานอัยการสูงสุด (ฉบับที่ ๑๐ )พ.ศ.๒๕๕๖ ให้จัดตั้งสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดขึ้นทั้ง ๗๖ จังหวัดทั่วประเทศ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๗ เป็นต้นมา ประกาศฉบับดังกล่าวได้กำหนดอำนาจและหน้าที่เพิ่มเติมจากที่สคช.รับผิดชอบอยู่ในส่วนของงานการบังคับคดีและในส่วนการบริหารงานกำหนดให้มีอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีเป็นผู้บังคับบัญชาและรับผิดชอบในการปฎิบัติราชการแยกเป็นเอกเทศ ไม่ขึ้นกับสำนักงานอัยการจังหวัด เช่นเดิม
วิสัยทัศน์ (Vision)
“องค์กรนำในการใช้กฎหมาย เพื่อรักษาความยุติธรรมให้กับประชาชนและสังคม”
พันธกิจ (Missions)
1. ยกระดับคุณภาพมาตรฐานงานตามภารกิจ ด้านการอํานวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพและช่วยเหลือทาง กฎหมายแก่ประชาชนให้มีคุณภาพ โปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา
2. พัฒนาความร่วมมือ บูรณาการเครือข่ายองค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ด้านการพัฒนากระบวนการยุติธรรมให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมของประเทศ
3. เพิ่มศักยภาพมาตรฐานกลไกการบริหารจัดการระบบงานและกระบวนการทํางานที่สําคัญ รวมทั้งการพัฒนาระบบติดตามประเมินผลและระบบจัดการองค์ความรู้เพื่อมุ่งสู่การสร้างนวัตกรรมโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นพื้นฐาน
4. พัฒนาองค์กรให้มีคุณภาพคู่คุณธรรมตามหลักธรรมาภิบาล บุคลากรมีสมรรถนะสูง มีคุณธรรม จริยธรรม และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
โครงสร้าง (Structure)
บุคลากร
ให้การช่วยเหลือประชาชนในด้านต่าง ๆ ดังนี้
- ให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่ประชาชน ผู้เดือดร้อน
- ช่วยทำนิติกรรมสัญญาแก่ประชาชน
- ช่วยเหลือทางคดีแพ่ง และคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา ทั้งในฐานะผู้ฟ้อง และผู้ถูกฟ้องให้แก่ประชาชนที่เดือดร้อน ยากจน ไม่ได้รับความเป็นธรรม
- ประนอมข้อพิพาททางแพ่งและอาญาอันยอมความได้
- บังคับคดีให้กับหน่วยงานของภาครัฐตามคำพิพากษาของศาล
เอกสารที่ต้องใช้ในการติดต่อ
เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นคำร้องขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
- สำเนาทะเบียนบ้านเจ้ามรดก (ผู้ตาย)
- มรณบัตรของเจ้ามรดก
- ทะเบียนสมรสของเจ้ามรดกและของบิดา-มารดาของเจ้ามรดก
- หากบิดา-มารดา ของเจ้ามรดกถึงแก่ความตายไปก่อนแล้วต้องแสดงมรณบัตร หรือหนังสือรับรองการตาย (ขอได้จากอำเภอที่บุคคลนั้นถึงแก่ความตาย)
- เอกสารหลักฐานเกี่ยวกับทรัยพ์สินของผู้ตาย เช่น โฉนดที่ดิน น.ส.3, น.ส.3ก, สค.1 , ทะเบียนอาวุธปืน, ทะเบียนรถยนต์, ทะเบียนรถจักรยานยนต์, สมุดเงินฝากธนาคาร
- หนังสือให้ความยินยอมของทายาทโดยธรรม (ลงนามต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดสงขลา)
- ทะเบียนบ้านและบัตรประจำตัวประชาชนของทายาททุกคน
- เอกสารอื่นๆ (ถ้ามี) เช่น ใบเปลี่ยนชื่อตัว-ชื่อสกุล เป็นต้น
- เงินค่าธรรมเนียมศาล
หมายเหตุเอกสารตามข้อ 1- 8 ผู้ร้องต้องถ่ายสำเนาหลักฐานทั้งหมดมาอย่างละ 3 ชุด พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง เพื่อความสะดวกในการยื่นคำร้อง)
เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นคำร้องขอตั้งผู้ปกครอง
- สำเนาทะเบียนบ้านของเด็ก
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ปกครอง
- สำเนาสูติบัตรของเด็ก
- สำเนามรณะบัตรของมารดาเด็ก
- สำเนามรณะบัตรของบิดาเด็ก
- สำเนาหลักฐานการสมรสทางศาสนาของบิดามารดาเด็ก
- เงินค่าธรรมเนียม
หมายเหตุเอกสารตามข้อ 1- 6 ถ่ายสำเนารายการละ 4 ชุด (พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง)
เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นคำร้องขอรับบุตรบุญธรรม
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้จะรับบุตรบุญธรรม
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้จะเป็นบุตรบุญธรรม
- สำเนาทะเบียนบ้านของบิดามารดาของผู้จะเป็นบุตรบุญธรรม
- สำเนาทะเบียนบ้านของสามีหรือภริยาผู้จะรับบุตรบุญธรรม
- สำเนาใบสำคัญการสมรสของผู้จะรับบุตรบุญธรรม
- สำเนาใบสำคัญการสมรสของบิดามารดาบุตรบุญธรรม
- สำเนาสูติบัตรผู้จะเป็นบุตรบุญธรรม
- หนังสือให้ความยินยอมของบิดาผู้จะเป็นบุตรบุญธรรม
- หนังสือให้ความยินยอมของคู่สมรสของผู้ที่จะรับบุตรบุญธรรม
- เงินค่าธรรมเนียม
หมายเหตุเอกสารตามข้อ 1- 9 ถ่ายสำเนารายการละ 4 ชุด (พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง)
เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นคำร้องขอเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ
- สำเนาทะเบียนบ้านผู้ร้อง (บิดา)
- สำเนาทะเบียนบ้านของคนเสมือนไร้ความสามารถ
- สำเนาสูติบัตรของคนไร้ความสามารถ
- สำเนาทะเบียนทะเบียนสมรสของผู้ร้อง (บิดา)
- ใบรับรองแพทย์
6.บัตรประจำคนผู้พิการ - สำเนาทะเบียนบ้านของมารดา
- หนังสือให้ความยินยอมจากทายาท
- เงินค่าธรรมเนียม
หมายเหตุเอกสารตามข้อ 1- 8 ถ่ายสำเนารายการละ 3 ชุด (พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง)
เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นคำร้องตั้งรับรองบุตร
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ที่จะรับ
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เยาว์
- หนังสือการสมรสของผู้ที่จะรับ
- สูติบัตรของเด็ก
- สำเนาทะเบียนบ้านของมารดาเด็ก
- หนังสือให้ความยินยอมของมารดาเด็ก
- เงินค่าธรรมเนียม
หมายเหตุเอกสารตามข้อ 1- 5 ถ่ายสำเนารายการละ 4 ชุด (พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง)
สถิติการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย
ติดต่อหน่วยงาน
สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดสงขลา
ถนนแหลมสนอ่อน ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา 90000
โทรศัพท์ 074-307236 โทรสาร 074-307236
E-mail : sk_lawaid@ago.go.th